ข้อความต้นฉบับในหน้า
118
ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี
สั่งสอนให้รู้จักเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต ไม่ได้มีการชี้หนทางไปนิพพานให้เข้าใจ มนุษย์
ในโลกนี้จึงได้ตั้งเป้าหมายชีวิตของตนเองจนห่างไกลไปจากนิพพาน
แม้แต่คำกล่าวในการถวายสังฆทาน ในตอนท้ายที่มีการตั้งจิตอธิษฐานโดยอาศัย
ผลบุญที่เกิดจากการถวายสังฆทาน ขณะนี้มีเหลือกล่าวไว้เพียง “เพื่อประโยชน์ เพื่อ
ความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายตลอดกาลนานเทอญ” มีเพียงวัดไม่กี่วัดที่ยังคงคำอธิษฐานไว้ว่า
“เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อมรรคผลนิพพาน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายตลอดกาล
นานเทอญ”
เพื่อความเข้าใจในเรื่องนิพพาน
ตามรอยฯ ขอนำพระธรรมเทศนาบางตอนที่
หลวงพ่อกล่าวถึงเรื่องนิพพาน มาให้ท่านผู้อ่านได้ศึกษาดังนี้
ในพระธรรมเทศนา เรื่อง อาทิตตปริยายสูตร แสดงเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม
พ.ศ.๒๔๙๖ หลวงพ่อได้กล่าวไว้ว่า
“อะไรเป็นมรรค อะไรเป็นผล อะไรเป็นนิพพาน มรรคผล นิพพาน
กายธรรมอย่างหยาบ กายธรรมโคตรภู โสดา สกทาคา อนาคา
อรหัตอย่างหยาบ นั่นแหละเป็นตัวมรรค
กายธรรมอย่างละเอียด โสดาอย่างละเอียด สกทาคาอย่าง
ละเอียด อนาคาอย่างละเอียด อรหัตอย่างละเอียด นั่นแหละเป็นตัวผล
นั่นแหละมรรคนั่นแหละผล
แล้วนิพพานล่ะ ?
ธรรมที่ทำให้เป็นกายโคตรภู โสดา สกทาคา อนาคา อรหัต พอถึง
ธรรมที่ทำให้เป็นพระอรหัต ก็ถึงนิพพานกัน นิพพานอยู่อย่างนี้
ถ้าไม่มีธรรมที่ทำให้เป็นพระอรหัต ก็ไปนิพพานไม่ได้
ธรรมที่ทำให้เป็นพระอรหัต เป็นวิราคธาตุวิราคธรรม
ตัวนิพพานเป็นวิราคธาตุวิราคธรรม เขาก็ดึงดูดกัน พอถูกส่วนเข้า
ก็ดึงดูดกันรั้งกันไปเอง
เหมือนมนุษย์ในโลกนี้ คนมั่งมีเขาก็เหนี่ยวรั้ง คนมั่งมีไปรวมกัน