ข้อความต้นฉบับในหน้า
126 ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ มุ นี
ไปสู่นิพพาน ซึ่งยากจะหาใครมาสั่งสอนชี้หนทางได้อย่างท่าน
ตามรอยฯ ได้คลี่แผนผังทางไปนิพพานให้เห็นกันอย่างชัดๆ ว่าทางสายกลางเริ่ม
จากกลางกายที่ศูนย์กลางกาย เข้าถึงดวง 5 ดวง และกาย ๑๘ กาย ไปตามลำดับ ซึ่ง
ย้ำแสดงให้เห็นว่า หลวงพ่อไม่ได้เน้นสอนธรรมะที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อการทำมา
หากิน เพื่อชีวิตการครองเรือน แต่ท่านมุ่งสอนธรรมะที่ใช้เพื่อการหลุดพ้น
ธรรมะที่จะนำพาทุกชีวิตให้ไปสู่นิพพานได้โดยตรง
เป็น
จึงขอแนะนำว่าอย่าพลาดการติดตาม
นับจากตอนที่ ๒๐ นี้เป็นต้นไป ตามรอยฯ จะพาท่านผู้อ่านเดินตามรอยหลวงพ่อวัด
ปากน้ำใกล้จุดหมายปลายทางเข้าไปทุกขณะ
เนื้อหานับตั้งแต่ตอนนี้ไปแม้แต่ตอนเดียว เพราะหากพลาดไปบางตอนแล้ว จะทำให้ไม่
กระจ่างใจถึงจุดหมายปลายทางที่หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านดำเนินไป อาจมีบางตอนที่จะ
ต้องอ่านกันซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้ง เพราะเป็นเรื่องลึกซึ้ง เป็นเงื่อนงำที่ซ่อนอยู่ในส่วน
ลึกของพระไตรปิฎก ซึ่งไม่มีบุคคลใดสามารถอธิบายและยืนยันในเรื่องเหล่านี้ได้ มีเพียง
หลวงพ่อวัดปากน้ำเท่านั้น เพราะฉะนั้นให้ท่านผู้อ่านได้จดจ่อสนใจศึกษาค่อยๆ ทำความ
เข้าใจ แล้วจะเห็นภาพจุดหมายปลายทาง ที่หลวงพ่อท่านตั้งใจจะไปให้ถึงอย่างแจ่มชัด
ท่านผู้อ่านคงจะเคยได้ยินคำว่า “มาร” กันมาบ้าง และคงจะเคยได้ยินคำว่ามาร
กับชื่อของหลวงพ่อวัดปากน้ำอยู่บ่อยๆ ว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำทำวิชชาปราบมาร เรื่อง
ราวที่หลวงพ่อวัดปากน้ำทำวิชชาปราบมารเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามรอยๆจะค่อยๆ เปิดเผย
เรื่องราวเป็นลำดับไป โดยจะขอเริ่มศึกษากันในเรื่องของ “มาร” เป็นลำดับแรก
เรื่องราวของ “มาร” เป็นเรื่องจริงที่มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก มารเป็นอะไร
อย่างหนึ่งที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวแตกต่างจากทุกสิ่ง และมารไม่ใช่ คน สัตว์ เทวดา
ยักษ์ ฯลฯ อีกด้วย
พระเทวทัต ผู้ที่เคยคิดฆ่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำหมู่สงฆ์ให้แตกแยก ทำบาป
มากขนาดนั้น แต่ในพระไตรปิฎกก็ไม่ได้กล่าวเรียกพระเทวทัตว่ามาร แต่ใช้ชื่อเรียก
กำกับไว้ว่า พระเทวทัต
นางจิญจมาณวิกา ผู้กล่าวหาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็นผู้กระทำตนให้ท้อง ทำ
บาปมากอย่างนั้น ก็ไม่เรียกนางจิญจมาณวิกาว่ามาร แต่ระบุชื่อเรียกว่า คือนาง