ข้อความต้นฉบับในหน้า
72 ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี
ได้อย่างไร ในที่สุดก็อดทนนั่งต่อไป ใจเริ่มค่อยสงบทีละน้อย เพราะไม่
แวบไปเกาะที่ปวดเมื่อย
“ช่างมันปะไร มันเป็นเรื่องของสังขาร”
ในที่สุดใจก็หยุดเป็นจุดเดียวกัน เห็นเป็นดวงใสบริสุทธิ์ ขนาดเท่า
ฟองไข่แดงของไก่ติดอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ใจสบายอย่างบอกไม่ถูก ความ
ปวดเมื่อยหายไปไหนไม่ทราบ ก็พอดีกลองเพลดังกังวานขึ้น
หลวงพ่อผ่านการบำเพ็ญเพียรในตอนเช้า ด้วยผลการปฏิบัติที่ได้
เข้าถึงดวงใสบริสุทธิ์ ติดอยู่ที่กลางกาย ทำให้มีความสุข อิ่มเอิบใจ
แม้เวลาฉันภัตตาหารเพลก็ยังเห็น ฉันไปก็ยิ้มไป จนเพื่อนภิกษุถามว่า
“ท่านสด ทำไมวันนี้ ท่านจึงฉันจังหัน (อาหาร) ไปยิ้มไป ท่านยิ้ม
กับผู้ใดหรือ"
“เปล่าหรอกท่าน
ผมกำลังระลึกถึงคุณของพระบรมศาสดาของ
เรา เลยอดที่จะยิ้ม ปีติ โสมนัสใจไม่ได้”
“ท่านสด นับว่าเป็นผู้ไม่ประมาท แม้แต่ฉันจังหันยังภาวนาระลึก
ถึงคุณของพระบรมศาสดา เป็นพุทธานุสติ หากพระองค์ยังมีพระชนม์
อยู่ คงจะต้องตรัสสรรเสริญท่านท่ามกลางพระขีณาสพทั้งหลายเป็นแน่”
เพื่อนภิกษุของท่านกล่าวชื่นชมเช่นนั้น
เวลาบ่าย หลวงพ่อพักผ่อน และได้ลงปาฏิโมกข์กับพระภิกษุที่อยู่
วัดโบสถ์(บน) ด้วยกันแล้ว ท่านก็รู้สึกเบากายเบาใจยิ่งขึ้น ใกล้ค่ำ ท่าน
ก็สรงน้ำ จัดการภารกิจส่วนตัว จนหมดความกังวลใจ แล้วก็เริ่มเข้า
ประตูโบสถ์ในเวลาเย็น
ในหนังสือเดินไปสู่ความสุขได้บรรยายเหตุการณ์ในตอนนี้ว่า
“ท่านเริ่มปรารภความเพียรทางใจ ขณะลงนั่งบนพื้นโบสถ์ต่อหน้า
พระประธาน ผู้เป็นตัวแทนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเริ่มสวด
อ้อนวอนเบาๆ
“ขอพระองค์ได้ทรงโปรดประทานธรรมแก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิด