ข้อความต้นฉบับในหน้า
เย็น ตั้งสัจจอธิษฐานแน่นอนลงไปว่า
ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี 9
“ถ้าเรานั่งลงไปครั้งนี้ ไม่เห็นธรรมที่พระพุทธเจ้าต้องการ เป็นอันไม่ลุกจากที่
นี้จนหมดชีวิต”
ว่า
เมื่อตั้งจิตมั่นลงไปแล้ว ก็เริ่มปรารภนั่ง จึงได้แสดงความอ้อนวอนแด่พระพุทธเจ้า
“ขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดข้าพระพุทธเจ้า
ธรรมที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้อย่างน้อยที่สุดแลง่ายที่สุด
ทรงประทาน
ที่พระองค์ได้
ทรงรู้แล้วแก่ข้าพระพุทธเจ้า ถ้าข้าพระพุทธเจ้ารู้ธรรมของพระองค์แล้ว
เป็นโทษแก่ศาสนาของพระองค์แล้ว ขอพระองค์อย่าทรงพระราชทานเลย
ถ้าเป็นคุณแก่ศาสนาของพระองค์แล้ว ขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณา
โปรดพระราชทานแก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์รับเป็นทนายศาสนาใน
ศาสนาของพระองค์จนตลอดชีวิต”
แต่พออ้อนวอนเสร็จแล้ว ก็เริ่มปรารภเข้าที่นั่งสมาธิต่อไป มานึกถึงมดขี้ที่ตาม
ช่องของแผ่นหินที่ยาวๆ แลบนแผ่นหินบ้าง ไต่ไปมาอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก จึงหยิบเอา
ขวดน้ำมันก๊าดมา เอานิ้วจุกเข้าที่ปากขวด แล้วตะแคงขวดให้เปียกนิ้วเข้า แล้วเอามา
ลากเป็นทางให้รอบตัว จะได้กันไม่ให้มาทำอันตรายในเวลานั่งลงไปแล้ว แต่พอทางนิ้วที่
เปียกน้ำมันนั้นไม่ทันถึงครึ่งของวงตัวที่นั่ง ความคิดอันหนึ่งเกิดขึ้นว่า
“ชีวิตสละได้ แต่ทำไมยังกลัวมด อยู่เล่า”
ก็นึกอายตัวเองขึ้นมา เลยวางขวดน้ำมัน เข้าที่เลยในเดี๋ยวนั้น ประมาณครึ่งหรือ
ค่อนคืน ไม่มีนาฬิกา ไม่แน่ ก็เห็นผังจริงของพระพุทธเจ้า ซึ่งมีอยู่ในหนังสือธรรมกาย ที่
“คุณพระทิพย์ปริญญา” เรียบเรียงพิมพ์แจกไปแล้วนั้น
ในขณะนั้นก็มาปริวิตกว่า
“คัมภีโรจายัง(*) ธรรมเป็นของลึกถึงเพียงนี้ ใครจะไปคิดคาดคะเนเอาได้ พ้นวิสัย
ของความตรึกนึกคิด ถ้ายังตรึกนึกคิดอยู่ ก็เข้าไม่ถึง ที่จะเข้าถึงต้องทำให้รู้ตรึก รู้สึก
รู้คิดนั้น หยุดเป็นจุดเดียวกัน แต่พอหยุดก็ดับ แต่พอดับแล้วก็เกิด ถ้าไม่ดับแล้วไม่เกิด
ตรองดูเถิดท่านทั้งหลาย นี้เป็นของจริง หัวต่อมีเป็นอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่ถูกส่วนดังนี้ ก็