ข้อความต้นฉบับในหน้า
160 ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี
สำหรับบุคคลผู้มีความปรารถนาจะไปให้ถึงที่สุด หลุดพ้นจากอิทธิพลของมาร พ้น
ความแก่ ความเจ็บ ความตาย หลวงพ่อท่านมีวิธีการอย่างไรที่จะทำความปรารถนา
ของท่านให้เป็นจริงได้
ในพระธรรมเทศนาของท่านที่กล่าวถึงการต่อสู้กับมารว่า ท่านทำมามิได้หยุดสัก
วันเดียว ตัวเลขบ่งบอกแน่ชัด ว่าเป็นเวลากี่ปี กี่เดือน กี่วัน ดังที่ตามรอยฯ ได้นำ
เสนอท่านผู้อ่านไปแล้วในตอน ที่ว่าด้วย “วันที่เริ่มทำวิชชา”
โดยสรุปว่าวันที่เริ่มทำวิชชาคือวันที่เริ่มต่อสู้กับมาร เป็นวันที่รวมทีมผู้ปฏิบัติที่ได้
เข้าถึง “ธรรมกาย” แล้วมารวมกันทำงานทางจิต ตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยแบ่งกันเป็น
ผลัดๆ นั่งสมาธิกันอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่วันเข้าพรรษาของปี พ.ศ.๒๔๗๔ เป็นต้นมา
นั่นคือการเริ่มต่อสู้กับมาร เพื่อไปยังเป้าหมายปลายทางที่ท่านตั้งใจไว้
หลวงพ่อไม่ได้กล่าวว่า การเข้าถึงธรรมของท่านในวันเพ็ญ เดือนสิบ ของปี พ.ศ.
๒๔๖๐ เป็นวันที่เริ่มต่อสู้กับมาร แต่กล่าวชัดเอาไว้ให้คำนวณได้ว่า วันเข้าพรรษาของปี
พ.ศ. ๒๔๗๔ ซึ่งเป็นวันที่รวมผู้เข้าถึงธรรมกายมาปฏิบัติงานทางจิตอย่างต่อเนื่อง ๒๔ ชั่วโมง
เป็นวันเริ่มต่อสู้กับมาร และไม่ปรากฏหลักฐานในที่ใดเลยว่ามีการรวมตัวของผู้ที่ได้เข้า
ถึงธรรมกาย มานั่งปฏิบัติธรรมทำงานทางจิตตลอด ๒๔ ชั่วโมงเช่นนี้ วิธีการแบบนี้เกิด
ขึ้นเป็นพิเศษ สำหรับทำงานพิเศษ ของบุคคลที่ตั้งความปรารถนาแบบพิเศษ ที่ยังไม่เคย
มีใครตั้งความปรารถนามาก่อนเท่านั้น
การรวมกันของบุคคลที่ได้เข้าถึงธรรมกายแล้ว เพื่อปฏิบัติงานทางจิตตลอด ๒๔
ชั่วโมง เป็นเรื่องหลักที่มีความสำคัญในการทำงาน เพื่อไปยังเป้าหมายปลายทางที่จะเอา
ชนะมารโดยสิ้นเชิงได้ หลวงพ่อได้ทำงานทางจิตร่วมกับบุคคลผู้เข้าถึงธรรมกาย ตั้งแต่
วันเข้าพรรษาของปี พ.ศ. ๒๔๗๔ จวบจนกระทั่งท่านมรณภาพ ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๕๐๒ เป็นเวลาถึงเกือบ ๓๐ ปี ไม่ได้มีหยุดเลยสักวันเดียว ยากที่จะมีบุคคลกระทำได้
เช่นท่าน
ชีวิตของท่านด้านหนึ่งต้องทำวิชชาร่วมกับพวกที่ได้ธรรมกายในโรงงานทำวิชชา
อีกด้านหนึ่งต้องบริหารปกครองวัด และเทศนาสั่งสอนประชาชนทั่วไป
การเทศน์สอนของหลวงพ่อนั้น ท่านสอนได้แค่วิธีปฏิบัติให้ได้เข้าถึงกาย ๑๘ กาย