ข้อความต้นฉบับในหน้า
ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี 91
มีเรื่องน่าศึกษาตรงนี้นิดหนึ่งเกี่ยวกับคัมภีร์มูลกัจจายน์ว่า การศึกษาบาลีไวยา
กรณ์ในปัจจุบันนี้ใช้หลักการศึกษาจากหนังสือบาลีไวยากรณ์ ซึ่งแต่งโดยสมเด็จพระมหา
สมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ก่อนหน้านี้การศึกษาบาลีไวยากรณ์ ใช้คัมภีร์
มูลกัจจายน์เป็นหลัก
หลักสูตรที่ใช้กันในปัจจุบันได้สรุปหลักภาษาเท่าที่จำเป็น ตัดทอนตอนที่ยุ่งยาก
ออกไป ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น สะดวกในการเรียนรู้ การแปลบางเรื่องบางพระสูตรจะให้
เข้าใจกระจ่าง รู้ถึงที่มาของคำนั้นๆ อย่างแท้จริงแล้ว ก็ต้องศึกษาในคัมภีร์เดิมคือ
คัมภีร์มูลกัจจายน์ ซึ่งมูลกัจจายน์เป็นคัมภีร์ที่แต่งขึ้นในประเทศไทย โดยอาศัยคัมภีร์
กัจจายนะจากประเทศอินเดียเป็นหลักในการแต่ง มีการใช้กันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย หรือ
อาจก่อนหน้านี้ มาเลิกใช้ในรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์นี้เอง
นับจากวันที่หลวงพ่อวัดปากน้ำบวช เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๙ ถึงวันที่ท่านยุติการเรียน
ปริยัติธรรมในพรรษาที่ ๑๑ (ปี พ.ศ.๒๕๕๙) หลวงพ่อศึกษาบาลีไวยากรณ์จากหนังสือชื่อ
มูลกัจจายน์ เล่มที่ท่านกล่าวถึงในเทศนานี้
อีกตอนหนึ่งในพระธรรมเทศนา เรื่อง การแสดงศีล แสดงเมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน
พ.ศ. ๒๔๙๗ หลวงพ่อได้อธิบายถึงเรื่องดวงปฐมมรรคไว้ดังนี้
๓
“ดวงใสนี้แหละ เรียกว่า เอกายนมรรค เป็นหนทางไปชั้นเอก ไม่มี
ทางไปอื่นดีกว่านั้นอีกต่อไป อีกนัยหนึ่ง ท่านเรียกว่าปฐมมรรค หนทาง
เบื้องต้นมรรคผลนิพพาน ผู้ที่จะไปสู่มรรคผลนิพพานก็ไปกลางดวงนั้น
ไปหยุดอยู่กลางดวงนั้น นี่หนทางเบื้องต้นมรรคผลนิพพาน
อีกนัยหนึ่ง ท่านเรียกว่าดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ธัมมานุ
ปัสสนาสติปัฏฐาน แปลว่า ดำเนินไปตามทางของพระอริยเจ้า”
ดวงปฐมมรรคเป็นหนทางเบื้องต้นมรรคผลนิพพาน คือเป็น “ต้นทาง” ที่จะไปสู่
นิพพานได้ นักปฏิบัติบางท่านเมื่อปฏิบัติเข้าถึงดวงนี้แล้ว ไม่ทราบว่าคือดวงอะไร และ
ไม่ทราบว่าจะฝึกใจอย่างไรต่อไปอีก ทำให้บางท่านเข้าใจถึง “ปลายทาง” คือนิพพานแล้ว
แต่หลวงพ่อบอกไว้อย่างชัดๆ ว่า นี่เป็นเพียง “ต้นทาง” ไปสู่นิพพานเท่านั้น หาใช่เป็น
“ปลายทาง” คือนิพพานไม่