ข้อความต้นฉบับในหน้า
ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี 159
ดูก่อนอานนท์ ตถาคตนั้น เมื่อปรารถนาก็พึงดำรง (ชนม์ชีพ)อยู่ได้
ตลอดกัป หรือเกินกว่ากัป ดังนี้”
พระพุทธองค์ได้กล่าวบอกกับพระอานนท์ว่า ถ้าผู้ใดเจริญอิทธิบาท ๔ ดีแล้ว จะ
มีอายุได้ถึงหนึ่งกัปป์หรือมากกว่า พระองค์ได้กล่าวกับพระอานนท์ที่กรุงราชคฤห์ ๑๐ ครั้ง
ที่กรุงเวสาลีอีก 5 ครั้ง แต่พระอานนท์ก็ไม่ได้ทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์มีอายุถึงหนึ่ง
กัปป์หรือมากกว่าเลย ทำให้พระองค์ต้องปลงอายุสังขาร และปรินิพพานในที่สุด ใน
มหาปรินิพพานสูตรได้กล่าวไว้ว่า
“แม้เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงทำนิมิตหยาบ ทรงทำโอภาส
หยาบอย่างนี้แล ท่านพระอานนท์ก็มิสามารถรู้ได้ มิได้กราบทูลอาราธนา
พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้า
จงดำรงอยู่ตลอดกับเถิด ขอพระสุคตเจ้าจงดำรงอยู่ตลอดกับเถิด เพื่อ
เกื้อกูลแก่ชนจำนวนมาก เพื่อความสุขแก่ชนจำนวนมาก เพื่ออนุเคราะห์
แก่ชาวโลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุข แก่เทวดาและมนุษย์
ทั้งหลาย ดังนี้ คล้ายกับท่านมีจิตถูกมารสิ่งไว้”
พุทธอุปัฏฐาก ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นอุปัฏฐากที่เลิศที่สุด ก็ยังถูกมารควบคุมไม่
ได้ทูลอาราธนาให้พระพุทธเจ้ามีพระชนม์ชีพอยู่ไปนาน จนเมื่อพระองค์ปลงอายุสังขาร
แล้ว พระอานนท์จึงทูลอาราธนา
ปรินิพพานอย่างแน่นอน
แต่นั่นก็เป็นการสายไปเสียแล้ว
พระองค์ต้อง
การต่อสู้กับความแก่ความตายของพระองค์ ท่านให้นัยไว้เพียงการยืดระยะเวลา
ออกไป ด้วยการเจริญอิทธิบาท ๔ เท่านั้น ซึ่งไม่มีอธิบายรายละเอียดวิธีการปฏิบัติ
ไว้แต่อย่างใด
เมื่อศึกษาพระไตรปิฎกอย่างจริงจัง และยอมรับในเรื่องของมาร ที่มีกล่าวไว้ใน
พระไตรปิฎกแล้ว ก็คงต้องยอมรับว่ามีอะไรอีกอย่างหนึ่ง ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไป
ไม่ถึง จึงได้ถูกมารครอบงำและเอาชนะพระองค์ ทำให้พระองค์ท่านต้องปรินิพพานไป
เช่นนั้น ซึ่งยังไม่มีความรู้ในที่ใดให้ความกระจ่างได้ คงหวังแต่เพียงการศึกษาความรู้
อย่างถูกต้องตามเส้นทางสายกลางในกลางกายเท่านั้นเอง ที่จะให้ความกระจ่างในเรื่องนี้