ข้อความต้นฉบับในหน้า
ต า ม ร อ ย พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ ม นี 53
ฝรั่งเศสกำลังคุยกันอยู่ ที่ทหารไทยอยู่บ้าง ลูกระเบิดทำลายมันตกกลาง
ประชุมกำลังคุยกันนั้น ซึ่งเดียวเท่านั้นตายหมด เหลือตายอยู่คนเดียว
ที่อยู่ในนั้นเหลือไทยคนเดียว นอกนั้นไม่เหลือ ตายหมด ไทยคนเดียวมี
พระของขวัญอยู่ในตัว ฝรั่งให้เหรียญกล้าหาญ ให้เหรียญกล้าหาญแก่
ไทยคนนั้น ยังปรากฏอยู่ นี่ความศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น...”
จวบจนมาถึงปี พ.ศ.๒๔๙๖ สงครามเกาหลีก็สิ้นสุดลง
ปี พ.ศ.๒๔๙๗ หลวงพ่อเริ่มเผยแพร่วิชชาธรรมกายไปต่างประเทศ โดยในวันที่
๘ พ.ย.๒๔๙๗ หลวงพ่อได้ส่งพระกปิลวัฑโฒ ชื่อเดิมของท่านคือศาสตราจารย์วิลเลี่ยม
ผู้ซึ่งได้ธรรมกายแล้วขึ้นเครื่องบินไปเผยแพร่ยังประเทศอังกฤษ
ปี พ.ศ.๒๔๙๙ เริ่มมีการทำพระของขวัญรุ่นที่ ๓ ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อ
สร้างขึ้นเอง
ในปีนี้เอง หลวงพ่อเริ่มอาพาธ และถึงปี พ.ศ.๒๕๐๒ หลวงพ่อก็มรณภาพ จาก
โลกนี้ไปอย่างนักสร้างบารมีที่แกร่งกล้า
ชีวิตของหลวงพ่อเหมือนประหนึ่งว่าจะเกิดมาในช่วงที่บ้านเมืองวิกฤติ เพื่อมา
เป็นแสงสว่างให้กับชาวโลก ในยามที่โลกเต็มไปด้วยความสับสน
ช่วยเหลือบ้านเมือง
ว้าวุ่น และเปี่ยมด้วยภัยอันตรายต่างๆ มากมาย
หลวงพ่อได้พูดถึงเหตุแห่งความยากลำบากในช่วงสงครามโลกไว้ในเทศนาของท่าน
เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๙๗ ว่า
“ในสองประเทศนั้นที่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน เป็นทุกข์แน่ ไม่ใช่
เป็นทุกข์เพียงเท่านั้น หลั่งความทุกข์มาให้ประเทศข้างเคียงไม่ใช่น้อย
ยังเราท่านทั้งหลายได้ประสบความเบียดเบียนมาแล้วอย่างใหญ่ เรียกว่า
สงคราม ล่วงแล้วสองครั้ง ได้ประสบอย่างใหญ่ทีเดียว พอปลายสงคราม
ข้าวของแพงเกินส่วน ของหายากเกินส่วน เครื่องอุปโภคบริโภคไม่
พอใช้จ่ายกัน ต่างประเทศถึงกับเดือนร้อนถึงความตาย นี้เป็นได้แล้ว
ความเบียดเบียนซึ่งกันและกันเป็นทุกข์ในโลกอย่างนี้