ข้อความต้นฉบับในหน้า
2.1.2 อารมณ์ของสมถกัมมัฏฐาน
การที่จะเจริญสมถกัมมัฏฐานเพื่อให้ได้ฌาน จะต้องรักษาจิตให้มีอารมณ์เดียวตลอดเวลา จิตที่มี
อารมณ์เดียว ย่อมมีกำลังมหาศาลเหมือนน้ำที่ไหลสายเดียว มีกำลังมากกว่าน้ำหลายสาย
สิ่งที่ทำให้จิตเข้าไปยึดเหนี่ยวเพื่อให้เกิดความสงบ ท่านเรียกว่า อารมณ์ของสมถะ คือ วิธีที่ทำให้
ใจสงบ ผู้ที่ต้องการจะบำเพ็ญสมถกัมมัฏฐาน จะต้องศึกษาให้เข้าใจอารมณ์ของกัมมัฏฐานเสียก่อน
จึงลงมือปฏิบัติได้ถูกต้องและได้ผลดี
ในคัมภีร์อภิธัมมัตถสังคหะและคัมภีร์วิสุทธิมรรคได้แสดงอารมณ์ของสมถกัมมัฏฐานไว้ว่า มี 40 วิธี
แบ่งเป็น 7 หมวด คือ กสิณ 10 อสุภะ 10 อนุสติ 10 พรหมวิหาร 4 อรูปกัมมัฏฐาน 4 อาหาเรปฏิกูลสัญญา
จตุธาตุววัตถาน
2.1.3 ผลของสมถกัมมัฏฐาน
เมื่อฝึกปฏิบัติ โดยการใช้อารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่งข้างต้น จากสมาธิในระดับต้นที่เป็น ขณิกสมาธิ
เมื่อได้หมั่นฝึกจิตบ่อยๆ จิตก็จะตั้งมั่นมากขึ้น จนกระทั่งเป็นอุปจารสมาธิแล้ว ถ้าหากไม่เลิกล้มกลางคัน หมั่น
ประคองรักษาสมาธิที่ได้นั้นไว้ ในที่สุดจิตก็ย่อมถึงความสงบตั้งมั่น ปักกิ่งในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง แนบ
แน่นเต็มที่ จนเป็นอัปปนาสมาธิ สมาธิในระดับนี้ถือเป็นผลที่พึงหวังของการเจริญสมถกัมมัฏฐาน
และเมื่ออัปปนาสมาธิเกิดขึ้นย่อมทำให้จิตสงบจากกิเลส กิเลสในที่นี้ หมายถึง ปริฏฐานกิเลส เป็นกิเลส
ระดับกลาง ที่เรียกว่า นิวรณ์ 5 ดังได้กล่าวไปแล้วในสมาธิ 3 ว่าประกอบด้วย
1. กามฉันทะ
2. พยาบาท
3. ถีนมิทธะ
4. อุทธัจจกุกกุจจะ
5. วิจิกิจฉา
(1) องค์ฌาน 5
การที่กิเลสเหล่านั้นสงบลงไปได้ ไม่แสดงผลออกมา ก็เพราะสมาธิที่เกิดขึ้นนั้นย่อมมีองค์ธรรม
ปรากฏเกิดขึ้นเป็นลำดับ และองค์ธรรมนี้เองที่ไปข่มกิเลสดังกล่าวไว้ องค์ธรรมที่เกิดขึ้นนี้ คือ
1) วิตก คือ การยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ จดจ่ออยู่กับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งโดยเฉพาะ เมื่อวิตก
เกิดขึ้นแล้ว ย่อมข่มถีนมิทธนิวรณ์ คือ ความที่จิตหดหู่ ท้อถอยจากอารมณ์ที่เพ่ง วิตกนี้ทำให้ผู้ปฏิบัติ
ไม่เกิดอาการง่วงหลับ เคลิบเคลิ้มในขณะทำสมาธิ
บทที่ 2 สมถะและวิปัสสนากัมมัฏฐานในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา
DOU 31