ข้อความต้นฉบับในหน้า
มีการวางจุดมุ่งหมายไว้อย่างชัดเจนก็จะประสบผลสำเร็จได้ง่าย เหมือนกับการล่องเรือที่มีเข็มทิศและ
แผนที่จะทำให้รู้สถานที่ที่กำลังจะไป ถึงแม้จะเป็นการเดินทางไกลก็จะถึงจุดหมายได้ เมื่อกล่าวถึงจุดมุ่งหมาย
ของการปฏิบัติกัมมัฏฐานอาจสรุปได้ดังนี้
1.4.1 เพื่อทำให้จิตสงบจากกิเลส
กัมมัฏฐานเป็นหลักปฏิบัติมีไว้เพื่อทำให้จิตสงบจากกิเลส ทำจิตที่เศร้าหมอง ให้มีความบริสุทธิ์
ผ่องใสขึ้น ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลายจิตนี้ผุดผ่อง แต่ว่าจิตนั้นแล เศร้าหมองแล้วด้วยอุปกิเลส
ที่จรมา ปุถุชนผู้มิได้สดับ ย่อมจะไม่ทราบจิตนั้นตามความเป็นจริง ฉะนั้นเรา
จึงกล่าวว่า ปุถุชนผู้มิได้สดับ ย่อมไม่มีการอบรมจิต
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ผุดผ่อง และจิตนั้นแล พ้นวิเศษแล้วจากอุปกิเลสที่
จรมา พระอริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว ย่อมทราบจิตนั้นตามความเป็นจริง ฉะนั้น
เราจึงกล่าวว่า พระอริยสาวกผู้ได้สดับ ย่อมมีการอบรมจิต”
และจิตที่ได้รับการฝึกอบรมดีแล้วย่อมนำประโยชน์ให้เกิดแก่ผู้ปฏิบัติทั้งในการดำรงชีวิตประจำวัน
และในการทำกิจต่างๆ ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ฝึกแล้ว
คุ้มครองแล้ว รักษาแล้ว สังวรแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่
เหมือนจิต ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จิตที่ฝึกแล้วคุ้มครองแล้ว รักษาแล้ว สังวรแล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่”
1.4.2 เพื่อให้หลุดพ้นจากความทุกข์
กัมมัฏฐานเป็นหลักปฏิบัติเพื่อให้หลุดพ้นจากทุกข์ ทำให้รู้เห็นและเข้าใจตามความเป็นจริงในทุกข์
ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงสอนให้เห็นและเข้าใจว่าชีวิตของมนุษย์ผู้ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดนั้น
เป็นทุกข์ ความทุกข์จะติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด ในบางครั้งเรา อาจจะรู้สึกว่ามีความสุข แต่ความสุขที่เรา
ได้พบนั้น เป็นความสามารถของเราในการที่ดับความทุกข์ลงไปได้ชั่วคราว หรือเป็นเพราะมีทุกข์น้อย
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แบ่งทุกข์ไว้เป็น 2 ประเภท คือ
อังคุตรนิกาย เอกนิบาต, มก. เล่มที่ 32 ข้อ 52-53 หน้า 106
*อังคุตรนิกาย เอกนิบาต, มก. เล่มที่ 32 ข้อ 41 หน้า 89
10 DOU
ส ม า ธิ 5 ห ลั ก ส ม ก วิ ปั ส ส น า ก ม ม ฏ ฐ า น