ความเชื่อในพระรัตนตรัยและเมตตาของหลวงปู่ GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์ หน้า 24
หน้าที่ 24 / 157

สรุปเนื้อหา

หลวงปู่มีความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยและเห็นว่าศาลเจ้าไม่ต้องการการเซ่นไหว้ ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร แม้จะมีความรู้สึกไม่สบายก็ตาม เขามีความเมตตาต่อสัตว์ด้วยการไม่ใช้วัวเกินเวลาเพลและยังมีธรรมะในการเลี้ยงดูลูกน้องด้วยความใจดี โดยเหมาขนมให้เด็กหญิงที่พายเรือมาขายจนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หน้าที่ของอีกฝ่ายก็กลายเป็นการดูแลอาหารในโรงครัวจนตลอดชีวิต.

หัวข้อประเด็น

-ความเชื่อในพระรัตนตรัย
-การไม่เซ่นไหว้ศาลเจ้า
-ความเมตตาต่อสัตว์
-การเลี้ยงดูครอบครัว
-ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้คน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ตั้งมั่นในพระรัตนตรัย ปกติท่านจะช่วยโยมพ่อพายเรือค้าข้าว วันหนึ่งพอผ่านไปถึงศาลเจ้าที่ใครๆ ก็ว่าเฮี้ยนมาก ใคร ผ่านไป จะต้องเอาของไปเซ่นไหว้ แต่หลวงปู่ท่านคิดว่า “นี่ไม่ใช่พระรัตนตรัย ทำไมต้องไหว้ เราไม่เช่น เราไม่ไหว้” วันหนึ่งเมื่อเรือผ่านศาลเจ้า ท่านรู้สึกแน่นท้องขึ้นมาทันที แต่ท่านก็อดทนไม่ยอมแพ้ เพราะคิดว่า “มันของของเราแท้ๆ นี่ เรื่องอะไรจะต้องเอาไปเซ่น เอาไปไหว้ ทำแล้วก็ไม่ได้บุญ บีบได้บีบไป จุก ได้จุกไป เดี๋ยวมันก็หายจุก” ซึ่งครั้งนั้นท่านมีความคิดว่า สักวันหนึ่งถ้าเข้าถึงพระรัตนตรัย จะกลับไป ที่ศาลเจ้านั้น ทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าพระรัตนตรัยเข้าถึงได้อย่างไร แต่จิตใต้สำนึกของท่านบอกอย่างนี้ มีเมตตา โยมพี่สาว ของท่านเล่าว่า ตั้งแต่ท่านยังเป็นเด็ก เมื่อออกไปไถนา ท่านจะคอยสังเกตดวงตะวัน ว่า ใกล้เวลาเพลแล้วหรือยัง เมื่อพี่สาวของท่านเห็น ก็จะตำหนิท่านว่า เกียจคร้าน คอยดูแต่ว่าเมื่อไรจะ ถึงเวลาเลิกงาน แต่ความจริงแล้วท่านถือคติของคนโบราณที่ว่า การไถนาจนถึงเวลาตีกลองเพล (11.00 น.) ซึ่งเรียกว่า “เพลคาบ่าวัว” ถือว่าบาปมาก ท่านจึงไม่อยากจะใช้แรงงานวัวจนเลยเพล นี่เป็นความเมตตา ของท่านที่มีต่อสัตว์ หลังจากเลิกไถนาแล้ว ท่านจะนำวัวไปอาบน้ำจนเย็นสบาย แล้วจึงปล่อยให้ไปกินหญ้าเป็นอิสระ ตามใจชอบ ถ้าได้ทำอย่างนี้ท่านจะรู้สึกสบายใจ และมักจะร้องเพลงไปด้วย เนื้อหาของเพลงมักจะวนเวียน อยู่กับพระนิพพานดังนี้ “เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำอะไร อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่ หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย เลิกอยากลาหยอก รีบออกจากกาม เดินตามขันธ์สาม เรื่อยไป เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร เรียกว่านิพพานก็ได้” ใจกว้างเลี้ยงลูกน้อง ในช่วงที่หลวงปู่ยังมีอาชีพขายข้าวอยู่วันหนึ่งมีเด็กผู้หญิงพายเรือมาขายขนม เมื่อพายเรือมาใกล้ ก็ร้องขอให้ท่านช่วยซื้อ ปรากฏว่าวันนั้นท่านเหมาซื้อขนมทั้งลำเรือเลย เพื่อเลี้ยงลูกน้อง ตั้งแต่นั้นมาหาก มีขนมเหลือจากการขาย เด็กผู้หญิงคนนั้นก็จะแวะมาขายขนมให้ท่านช่วยเหมาอยู่เป็นประจำ นี่นับเป็น ความใจกว้างของท่าน ส่วนเด็กผู้หญิงคนนั้นก็คือ เด็กหญิงท้วม หุตานุกรม เมื่อโตขึ้นและเรียนจบ พยาบาลแล้วก็ออกบวชอยู่ธุดงค์ในป่า หลังจากนั้นได้มาเป็นแม่ชี อยู่ในวัดปากน้ำ คอยดูแลเรื่องอาหารใน โรงครัวจนตลอดชีวิต 1 นางดา เจริญเรือง * อุบาสิกาท้วม หุตานุกรม หลังจากมาอยู่ที่วัดปากน้ำแล้ว มีหน้าที่เป็นผู้จัดการโรงครัว ภาคที่ 1 ประวัติ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) DOU 9
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More