ข้อความต้นฉบับในหน้า
ความประหยัด
มีผู้มีจิตศรัทธามาถวายผ้าไตรจีวรกับหลวงปู่เป็นจำนวนมาก แต่หลวงปู่ก็ไม่ได้เก็บไว้เป็น
ของส่วนตัวเลย จะเอาไว้ก็เฉพาะที่ใช้เท่านั้น นอกนั้นท่านถวายแก่พระภิกษุ สามเณรหมด ท่านใช้จีวร
อย่างประหยัดมาก แม้ว่าจีวรจะเก่าแล้วท่านก็ยังไม่เปลี่ยน หากจีวรขาดหรือเป็นรู ท่านก็ให้ซ่อมแซมแล้ว
นำมาใช้ต่อ ยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงที่ทุกอย่างขาดแคลน เนื่องจากภาวะสงคราม หลวงปู่ท่าน
ประหยัดมากถึงขนาดที่ว่า ท่านให้เอาอังสะหลายๆ ตัวที่ไม่ได้ใช้ ให้มาเย็บต่อกันจนเป็นจีวร แต่เนื่องจาก
อังสะบางตัวจะมีสีไม่เหมือนกัน ทำให้จีวรผืนนี้มีหลากสี มีทั้งสีเหลืองเข้ม สีกลัก สีเหลืองแก่ เมื่อเย็บเสร็จ
แล้ว ท่านนำจีวรผืนนี้ไปแจกพระภิกษุ สามเณรรูปอื่นๆ แต่ก็ไม่มีใครรับ ท่านจึงนำมาใช้เอง ท่านใส่เดิน
ทุกวัน ต่อมามีลูกศิษย์ผู้หนึ่งขอจีวรผืนนี้ไปบูชา ท่านจึงให้ไป
ผู้ที่เห็นถึงความประหยัดของท่านในเวลานั้น ต่างก็ยิ่งเลื่อมใสในหลวงปู่มากยิ่งขึ้น เห็นว่าท่าน
ใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ญาติโยมถวายอย่างคุ้มค่าจริงๆ บรรดาญาติโยมจึงไม่เสียดายเมื่อได้ทำบุญกับ
ท่าน และยังทำบุญกับท่านอย่างต่อเนื่องตลอดมา
มีความมักน้อย สันโดษ
หลวงปู่ท่านอยู่ง่าย เรือนที่ท่านอยู่เป็นเรือนไม้หรือกุฏิเก่า สังกะสีเก่า โบราณ ไม่มีตู้เย็น
ไม่มีข้าวของเครื่องใช้ที่ทันสมัยในกุฏิของท่าน เตียงของท่านก็เก่า ตัวท่านก็ไม่ฟุ่มเฟือย ท่านมีแต่บริจาค
มีแต่ดูแลพระศาสนา
มีวาจาสุภาษิต
บางคนมักเข้าใจว่าหลวงปู่ท่านเป็นคนดุ แต่ความจริงแล้วท่านเป็นพระที่รู้จักใช้คำพูด ท่านพูด
ด้วยความเมตตา ไม่พูดให้ใครเสียกำลังใจ คราวหนึ่งแม่ครัวนึ่งข้าวแล้วเข้าใจว่าข้าวสุกแล้ว ไม่ได้ดูให้ดี
แล้วเตรียมไปถวายหลวงปู่ พอไปถึงท่านบอกว่า “แม่ครัวช่วยเปลี่ยนข้าวให้หน่อย ข้าวมันแข็ง” ท่านพูด
เพียงเท่านี้ ไม่ได้ตำหนิอะไร พอแม่ครัวเอาข้าวมาดู ปรากฏว่าข้าวทั้งแข็ง ทั้งดิบ
มีมหากรุณา
หลวงปู่ท่านเมตตาต่อทุกคนอย่างเสมอภาค มีอะไรท่านจะแบ่งปันให้กับทุกคน ครั้งหนึ่ง
ท่านเก็บมะม่วงใส่กระจาดแล้วให้แม่ชีจับฉลากกัน ใครอยากได้ก็อธิษฐานเอา หากใครขาดแคลนสิ่งใด
ท่านก็จะหามาให้ คราวหนึ่งในฤดูหนาว มีเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ออกมายืนบริเวณหน้าโรงงานทำวิชชา
ดูท่าทางเขาหนาวมาก ป้าจินตนา โอสถ (ขณะนั้นเป็นแม่ชี) เกิดความสงสาร จึงเอาผ้าห่มของตัวเองที่มีอยู่
ภาคที่ 1 ประวัติ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
DOU 49