ข้อความต้นฉบับในหน้า
ของเขาที่ไม่ยอมจำนนต่อญาณทัสสนะอันแม่นยำของคุณยายซึ่งได้ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีจากหลวงปู่
วัดปากน้ำ
ในสมัยก่อน หลวงปู่วัดปากน้ำท่านจะฝึกให้ไปดูนรก ดูสวรรค์เป็นปกติ ซึ่งผู้ศึกษาจะต้องหมั่น
ฝึกฝนด้วยความเอาใจใส่ เพื่อให้ญาณทัสสนะแม่นยำ จึงจะหาคำตอบมาตอบหลวงปู่ท่านได้อย่างถูกต้อง
ซึ่งถ้าหากไม่ขยัน และไม่จดจ่อ จะทำให้ตอบคำถามผิด เวลาใครตอบผิดอย่างนี้หลวงปู่ท่านจะดุว่า “ไอ้ขี้ไต้”
หมดทุกคน
คำว่า “ขี้ไต้” ก็คือเชื้อเพลิงชนิดหนึ่ง เวลาจะจุดให้ติดไฟต้องเขี่ยขี้ คือ เศษขี้เถ้าและถ่าน ซึ่ง
หมดน้ำมันยางแล้วออกเสียก่อน เมื่อเขี่ยขี้ใต้ถึงบริเวณที่มีน้ำมันยางชุ่มอยู่แล้วจึงจุด พอมันจะดับ
ก็ต้องเขี่ยขี้ออกอีก มันจึงจะติดขึ้นมาใหม่ นี่คือธรรมชาติของขี้ใต้ ผู้ที่เรียนวิชชาหากเป็นประเภทขี้ใต้
เมื่อไม่ถูกครูบาอาจารย์กระตุ้น ก็จะนั่งปล่อยใจให้ล่องลอยคิดไปในเรื่องราวต่างๆ นึกองค์พระได้บ้าง
ไม่ได้บ้าง หรือไม่ก็ไปเดินเล่น เข้าห้องน้ำ ดูนก ดูไม้ ดูดาวดูเดือน พอเรียกทีก็มานั่งที แต่สำหรับคุณยาย
แล้วท่านไม่เคยโดนหลวงปู่วัดปากน้ำดุด้วยคำนี้เลย จนกระทั่งหลวงปู่ท่านมรณภาพไป คุณยายเป็นประดุจ
ม้าอาชาไนย เวลาเห็นนายสารถีเฆี่ยนตีม้าตัวอื่นเพราะทำไม่ถูกต้อง ม้าอาชาไนยก็จะสอนตัวเองได้
และไม่ยอมทำผิดทำนองเดียวกันนั้นให้ถูกเฆี่ยนตีด้วย ดังนั้นคุณยายท่านจึงศึกษาค้นคว้า ขวนขวาย
นั่งสมาธิด้วยวิริยะอุตสาหะ จนเป็นบุคคลตัวอย่างที่สำคัญยิ่งในโรงงานทำวิชชา
โดยปกติแล้วคุณยายเป็นคนแข็งแรงและกระฉับกระเฉง สดชื่น ผ่องใสอยู่เสมอ แต่ภายหลังจาก
ที่คุณยายทองสุกละโลกไปแล้ว สุขภาพของท่านก็ทรุดโทรมลงจนล้มป่วยอย่างหนัก ลูกศิษย์คนหนึ่งที่คอย
เป็นห่วงเป็นใยก็จะพาคุณยายไปหาหมอรักษาตัวอยู่เป็นประจำ และมีลูกศิษย์อีกคนหนึ่งอยากได้บุญใน
การอุปัฏฐากคุณยายบ้าง จึงรับท่านไปพักที่บ้านของเขาแถวสุขุมวิท
ไม่ว่าคุณยายจะไปอยู่ ณ แห่งหนตำบลใด หลวงพ่อธัมมชโยก็ตามไปเยี่ยมคุณยายถึงที่นั่น
หลวงพ่อต้องเดินไปเป็นระยะทางที่ยาวไกลหลายกิโลเมตร เนื่องจากบ้านที่คุณยายไปพักนั้น ไม่สามารถ
นำรถยนต์เข้าไปถึงได้ กว่าจะถึงบ้านก็นับว่าลำบากพอสมควร แต่ท่านคิดว่าแม้จะลำบากมากมายกว่านี้
ร้อยเท่าพันทวี ท่านก็ไม่ท้อถอย เพราะในส่วนลึกของใจแล้ว มุ่งมั่นที่จะไปต่อวิชชากับคุณยายเพียงอย่างเดียว
ใจของท่านผูกพันอยู่กับคุณยายและวิชชาธรรมกายเท่านั้น
กว่าจะเดินไปถึง เนื้อตัวของหลวงพ่อก็โชกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อเข้าไปในบ้านเห็นคุณยายนอน
คลุมโปงอยู่บนเตียง หลวงพ่อก็เดินตรงเข้าไปหา และถามเรื่องวิชชา “ยาย อย่างนี้แล้วทำยังไงต่อ” เมื่อ
คุณยายได้ยินคำถาม ท่านจึงเปิดหน้าออกมาต่อวิชชาให้ โดยมิได้คำนึงถึงอาการป่วยไข้ที่กำลังรุมเร้า หาก
แต่ทุ่มเทชีวิตจิตใจถ่ายทอดความรู้ให้ลูกศิษย์ ครูผู้สอนนอนเอาผ้าคลุมโปง ปิดหน้าบ้าง เปิดหน้าบ้าง
ลูกศิษย์ก็นั่งสมาธิอยู่หน้าเตียงด้วยเหงื่อโทรมกาย แต่ในใจนั้นท่วมท้นไปด้วยความสุข
หลวงพ่อศึกษาวิชชาธรรมกายอยู่กับคุณยายด้วยความสนุกสนาน จนกระทั่งคุณยายหายป่วย
104 DOU ปฏิปทา มหาปูชนียาจารย์