ข้อความต้นฉบับในหน้า
ท่านยังคงนั่งเจริญภาวนาทบทวนอย่างนี้ต่อไปอีกประมาณ 30 นาที ก็เกิดภาพในสมาธิ
เป็นภาพของวัดบางปลาปรากฏขึ้น ความรู้สึกขณะนั้นเหมือนตัวท่านอยู่ที่วัดนั้น ทำให้คิดว่าธรรมที่รู้เห็นได้
ยากนั้น ที่วัดบางปลาจะต้องมีผู้ที่สามารถบรรลุธรรมได้แน่นอน ภาพของวัดบางปลาจึงปรากฏขึ้นในสมาธิ
นับแต่นั้นเป็นต้นมา หลวงปู่ได้ทุ่มเทชีวิตให้กับการปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนาอย่างเต็มที่
เพื่อค้นคว้าหาที่สุดแห่งธรรม ยิ่งค้นก็ยิ่งลึกซึ้งขึ้นไปทุกที ท่านปฏิบัติอยู่อย่างนี้อีกประมาณเดือนเศษ
จนออกพรรษา เมื่อรับกฐินแล้ว ก็ลาเจ้าอาวาสไปพักอยู่ที่วัดบางปลา เพื่อไปสอนธรรมที่ท่านได้รู้ได้เห็นแล้ว
ท่านสอนอยู่ประมาณ 4 เดือน มีพระภิกษุที่สามารถปฏิบัติธรรมตามอย่างท่านได้ 3 รูป คือ พระภิกษุสังวาลย์
พระภิกษุแบน และพระภิกษุอ่วม รวมทั้งคฤหัสถ์อีก 4 คน
จากนั้น พรรษาที่ 13 ท่านได้พาพระภิกษุสังวาลย์ไปจำพรรษาที่วัดสองพี่น้อง ที่วัดนี้มี
พระภิกษุได้เห็นธรรมอีก 1 รูป คือ พระภิกษุหมก หลังจากนั้น ท่านได้เดินทางไปพักที่วัดประตูสาร จังหวัด
สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นวัดของพระอุปัชฌาย์ของท่าน (ขณะนั้นได้มรณภาพแล้ว) มีประชาชนมาขอให้ท่าน
แสดงธรรมหลายครั้ง ท่านขัดไม่ได้ จึงยอมแสดงพระธรรมเทศนา เนื่องจากท่านมีความสามารถใน
การเทศน์สอน ประชาชนจึงชอบใจมาก ต่อมามีผู้มาขอร้องท่านให้แสดงธรรมอีกเป็นครั้งที่สอง
ท่านรู้ว่าถ้าเทศน์อีกจะทำให้เจ้าอาวาสไม่พอใจ แต่อยากจะสงเคราะห์ญาติโยม จึงตัดสินใจแสดงธรรมเป็น
ครั้งที่สอง เมื่อท่านแสดงธรรมรอบที่สองจบ ท่านก็เข้าไปกราบลาเจ้าอาวาส แล้วเดินทางกลับทันที
เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือน โดยท่านให้เหตุผลว่าจะพาพระไปอยู่กรุงเทพฯ หลวงปู่พักอยู่ที่วัดนี้
รวมเป็นระยะเวลา 4 เดือน
เมื่อออกจากวัดประตูสาร ท่านได้ไปรับพระภิกษุหมก พระภิกษุปลด (พระพุทธิวงศาจารย์
วัดเบญจมบพิตรฯ) พระภิกษุพล (พระครูโสภณราชวรวิหาร วัดเบญจมบพิตรฯ ภายหลังลาสิกขา) และ
พระภิกษุฮั้ว วัดป่าพฤกษ์ ที่วัดสองพี่น้อง แล้วไปอยู่ที่วัดพระเชตุพนฯ เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมต่อไป
- พระภิกษุรูปนี้ เมื่อสมัยที่มาอยู่วัดปากน้ำ หลวงปู่วัดปากน้ำได้ส่งไปสอนธรรมปฏิบัติแก่เจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์
(จัน สิริจันโท) วัดบรมนิวาสจนได้เข้าถึงพระธรรมกาย
20 DOU ปฏิปทา มหาปูชนียาจารย์