ข้อความต้นฉบับในหน้า
มิได้ขาดเป็นเวลาหลายสิบปีด้วยความคล่องแคล่วและชำนาญ
การบูชาข้าวพระ คือ การนำเครื่องไทยธรรม อันมีดอกไม้ ธูปเทียน อาหารคาวหวาน ซึ่งเป็น
ของหยาบ นำมากลั่นให้ละเอียดด้วยวิชชาธรรมกาย จนกระทั่งเครื่องไทยธรรมเหล่านี้ละเอียด ใส
บริสุทธิ์เท่ากับพระธรรมกาย จึงน้อมนำไปถวายเป็นพุทธบูชา แด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้าใน
อายตนนิพพาน แต่ธรรมกายของพระพุทธเจ้านั้น ท่านไม่ต้องฉันเหมือนมนุษย์ ท่านมีสุขอยู่ด้วย
ธรรมธาตุอันบริสุทธิ์ อิ่มอยู่เสมอ ที่เราเอาไปถวายนี้เป็นพุทธบูชา เพื่อต้องการบุญ บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์
อำนาจ สิทธิ ที่เกิดจากการบูชาข้าวพระให้ถึงแก่เรา ด้วยเหตุนั้น ผู้บูชาข้าวพระจึงต้องเข้าถึงธรรมกาย
ให้ได้ ต้องรู้จักหนทางสายกลาง ทำวิชชาธรรมกายเป็น จนกระทั่งเข้าสู่อายตนนิพพานได้ และเห็น
พระธรรมกายของพระพุทธเจ้าในอายตนนิพพานนับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน รวมทั้งมีความเชี่ยวชาญ
จนสามารถน้อมเครื่องไทยธรรมเหล่านี้ไปถวายเป็นพุทธบูชาได้ ซึ่งในเวลานั้นจะเห็นตัวเอง เห็นเครื่อง
ไทยธรรม เห็นพระธรรมกายของพระพุทธเจ้าอย่างชัดเจน และยิ่งไปกว่านั้น จะเห็นผลบุญ เห็นกระแสธาร
แห่งบุญที่บังเกิดขึ้นจากการนำเครื่องไทยธรรมไปถวายเป็นพุทธบูชานี้ด้วย การบูชาข้าวพระ จึงเป็นของที่
ทําได้ยากยิ่ง
เมื่อหลวงพ่อธัมมชโยอายุได้ 20 ปี ซึ่งนับว่าน้อยที่สุดในบรรดาลูกศิษย์ของคุณยาย แต่มีผล
การปฏิบัติธรรมดีเด่นที่สุด ก้าวหน้าเกินกว่ารุ่นพี่ที่เรียนมาก่อนหน้านี้ เพราะท่านมีความเพียร ขยันมาฝึก
ปฏิบัติทุกวันไม่เคยขาด คุณยายจึงมอบหมายให้ท่านเป็นผู้นำในการบูชาข้าวพระทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน
หรือแม้แต่ในพิธีต่างๆ อย่างเช่น พิธีทอดผ้าป่า หรือการถวายผ้าอาบน้ำฝน หลวงพ่อจะเป็นผู้นำในพิธีทั้งหมด
ส่วนคุณยายท่านทำหน้าที่เป็นผู้คุมบุญให้ทำกันอย่างนี้ตลอดมาเวลานั้นนอกจากผู้ใหญ่จะให้ความเชื่อถือแล้ว
ทุกคนต่างยินดีไม่มีใครคัดค้านเลยแม้แต่คนเดียว
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลวงพ่อมีความรู้สึกสดชื่น เบิกบาน มีความสุขทั้งวันทั้งคืน เพราะ
ใจของท่านมีเพียงคุณยายกับธรรมะ ท่านเคยกล่าวว่า คุณยายเป็นทั้งพ่อแม่ เป็นปู่ย่าตายาย ครูบาอาจารย์
เป็นกัลยาณมิตร เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของท่าน ไม่ว่าคุณยายจะให้โอวาทอย่างไร ท่านจะอยู่ในโอวาทอย่าง
ไม่มีเงื่อนไข คำสั่งสอนนั้นเป็นเสมือนสิ่งแทนตัวคุณยายที่ไม่ว่าหลวงพ่อท่านจะไปไหนมาไหน ก็นึกถึงอยู่
ตลอดเวลา
หลวงพ่อท่านเคารพในคำสั่งของคุณยายผู้เป็นครูบาอาจารย์ที่ท่านเทิดทูนอย่างสูงสุด ดังนั้น
ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง ท่านก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์ ครั้งหนึ่ง
ในวันขึ้นปีใหม่ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดให้มีงานรื่นเริงสนุกสนานกัน หลวงพ่อไปขออนุญาตจาก
คุณยายไปร่วมงานนี้ คุณยายท่านไม่ห้ามเพียงแต่พูดว่า “คุณก็เที่ยวมาทุกปีแล้ว ปีนี้คุณก็เที่ยวได้ ยายไม่ว่า
แต่ให้ไปหลังเที่ยงคืน”
วันนั้นหลังจากปฏิบัติธรรมและคุยธรรมะกับคุณยายจนถึง 2 ทุ่มแล้ว หลวงพ่อก็กลับ เมื่อมาถึง
106 DOU ปฏิปทา มหาปูชนียาจารย์