ข้อความต้นฉบับในหน้า
วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด วันนั้นมีการแสดงธรรม หลวงปู่ให้พระกมล ซึ่งเป็น
พระลูกศิษย์ของท่านขึ้นเทศน์บนธรรมาสน์แทน เทศน์เรื่องพระกรรมฐาน ซึ่งหลวงปู่นั่งฟังอยู่ด้วย
เทศน์เสร็จเวลา 20.00 น. ขณะที่หลวงปู่กำลังจะกลับกุฏิ ท่านเดินออกมาถึงหน้าศาลาการเปรียญ ก็มี
เสียงปืนดังขึ้น 2 นัด “ปัง ปัง” ลูกกระสุนปืนวิ่งทะลุผ่านจีวรของท่านขาดเป็นรู 2 รู ไปโดนนายพร้อม
อุปัฏฐากที่เดินตามหลัง ทะลุแก้มเป็นบาดแผลสาหัส แต่ไม่ตาย ส่วนท่านไม่เป็นอะไรเลย ด้วยอานุภาพ
ของศีลที่ท่านรักษาอย่างบริสุทธิ์เสมอมา และด้วยอานุภาพวิชชาธรรมกายที่ท่านเข้าถึง นับได้ว่าเป็น
เหตุการณ์อัศจรรย์ที่เกิดขึ้น ทำให้ชื่อเสียงของท่านแพร่สะพัดไปอีกโดยไม่ต้องโฆษณา ท่านยังถือว่า
เป็นการเพิ่มพูนบุญบารมีให้ตัวท่านอีกด้วย ท่านมีคติประจำใจเมื่อมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นว่า “พระเรา
ต้องไม่สู้ ต้องไม่หนี ชนะทุกที”
ต่อมาท่านยังเจอปัญหาอีก คือ
ทางเจ้าคณะอำเภอภาษีเจริญเกิดความไม่เข้าใจในตัวท่าน เนื่องจาก
ท่านเคยห้ามหลวงปู่ไม่ให้แสดงฤทธิ์ เพราะเกรงว่าจะเป็นการทำเกินหน้าวัดอื่นในเขตเดียวกัน แต่หลวงปู่
ไม่ได้ใส่ใจ ท่านพูดว่า “จะให้งอมืองอเท้านั้นไม่ได้ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ชีวิตเป็นหมัน” หลวงปู่
ท่านพูดอย่างหนักแน่นมาก ท่านยังคงดำเนินตามปฏิปทารุดหน้าต่อไป คำว่าถอยหลังท่านไม่เคยใช้
เกี่ยวกับวิชชาธรรมกาย ในระยะแรกมีผู้ไม่รู้ได้คัดค้านท่าน กล่าวหาว่าท่านอุตริบัญญัติคำว่า
ธรรมกาย ขึ้นใช้เอง บางคนก็ว่าท่านอวดอุตริมนุสธรรม บ้างก็พูดเหยียดหยามว่า ใครอยากเป็นอสุรกาย
ให้ไปเรียนธรรมกายที่วัดปากน้ำ เมื่อท่านได้ยินก็กลับยิ้มรับถ้อยคำเหล่านั้นด้วยอาการสงบ ไม่แสดง
ปฏิกิริยาขุ่นเคืองใดๆ ท่านพูดว่า “น่าสงสาร พูดไปอย่างไร้ภูมิ ไม่มีที่มาเขาจะบัญญัติขึ้นได้อย่างไร
เป็นถ้อยคำของคนเซอะ” ท่านว่าอย่างนั้นและยังพูดอีกว่า “เรื่องตื้นๆ ไม่น่าตกใจอะไร ธรรมกายเป็น
ของจริง ของจริงนี้จะส่งเสริมให้วัดปากน้ำเด่นขึ้น ไม่น้อยหน้าใคร พวกแกคอยดูไปเถิด”
คราวหนึ่งหลวงปู่พูดกับสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ เกี่ยวกับการถูกโจมตีเรื่องธรรมกาย
ว่า “คนเช่นเราใช่จะไร้เสียซึ่งปัญญา ชั่วก็รู้ดีก็เห็น เราจะฆ่าตัวเองเพราะความปรารถนาลามกทำไม
ที่เขาพูดว่าเราอย่างนั้น บางคนคงจะไม่รู้จักคำว่า ธรรมกาย มีอยู่ที่ไหนหมายเอาใคร เขาอาศัย
ความไม่รู้มาว่าเราผู้ตั้งใจปฏิบัติชอบ เมื่อผู้ไม่รู้ติเตียนเรา ความไม่รู้ของเขาจะลบล้างสัจธรรมของ
พระพุทธศาสนาได้อย่างไร ถ้าจะลบก็ลบได้เพียงชั่วคราว ไม่ช้าดวงแก้วของพระพุทธศาสนาก็จะ
เปล่งรัศมีให้ผู้มีปัญญาเห็นด้วยสายตาของตนเอง
การที่เขานำไปพูดเช่นนั้นเป็นผลแห่งการปฏิบัติที่เราได้กระทำกันอยู่ แสดงให้เห็นว่า
คณะวัดปากน้ำไม่ได้กินแล้วนอน เป็นสำนักที่เคร่งครัดในการปฏิบัติธรรม การพูดของเขาเท่ากับเอา
1 พระกมลเป็นศิษย์ที่มีความสามารถในด้านการเทศน์ใช้ปฏิภาณ และปฏิบัติธรรมได้ผลดี ต่อมาหลวงปู่ส่งพระกมล
ไปเผยแผ่ที่จังหวัดเพชรบุรี ไปได้ 3-4 ปี ก็มรณภาพ
* สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณสิริ)
32 DOU ปฏิปทา มหาปูชนียาจารย์