การตรวจตราของหลวงปู่ที่วัดปากน้ำ GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์ หน้า 55
หน้าที่ 55 / 157

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการดูแลพระภิกษุและสามเณรของหลวงปู่ที่วัดปากน้ำ มีการแจกสมณบริขารและการสอนให้สร้างคุณงามความดี โดยเฉพาะการดูแลความเรียบร้อยของทุกคนในวัดอย่างเข้มงวด และหลีกเลี่ยงการกระทำที่ไม่เหมาะสมผ่านการตรวจตราในยามค่ำคืน หลวงปู่จึงมีวิธีการตรวจสอบที่ไม่ให้ผู้หนีออกไปเห็น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและความตั้งใจในการปกครองของท่านอย่างชัดเจน

หัวข้อประเด็น

-การดูแลพระภิกษุและสามเณร
-สมณบริขาร
-การตรวจตราและความเรียบร้อยในวัด
-การสร้างสรรค์คุณงามความดี
-การจัดการกับความผิดในวัด

ข้อความต้นฉบับในหน้า

น่ะ ค่าไฟฟ้าเดือนหนึ่งๆ 2,000 กว่าบาทแล้ว (ราวปี พ.ศ. 2480-2490) ถึงกระนั้น เจ้าอาวาสก็สนับสนุน ทุกเดือนไป ไตรจีวรไม่มีขาย มีแต่ให้เรื่อยไป วัดปากน้ำนั้น ผู้ที่ปกครองเป็นเจ้าอาวาสอยู่น่ะ ได้อะไรมาก็ตามเถิด คิดว่าพระภิกษุ สามเณร ที่มาอยู่ด้วยกันเหมือนลูกเหมือนเต้า ไม่หวงไม่เสียดายกัน ติดขัดอะไรมาแจกให้ทั้งนั้นไม่ขัด เมื่อเป็นเช่นนี้ ภิกษุ สามเณรก็สุขสบายอุ่นหนาฝาคั่ง เหมือนอยู่กับพ่อแม่ ลูกเขาเขารักเหมือนแก้วตา ถ้าเขารู้ว่าภิกษุ ผู้ปกครองเอาใจใส่เหมือนเช่นนั้นละก็ เขาก็เคารพนับถือ” ท่านแจกสมณบริขารจนบางครั้งต้องติดหนี้ผู้ขอก็มี คือ ท่านรับปากว่าจะให้ แต่ตอนนั้นท่านยังไม่มี ท่านก็บอกว่าขอติดไว้ก่อน พอมีแล้วจะใช้ให้ ท่านพูดว่า “เขาอยากได้อยากดีเท่าไรให้เขาเสียไม่เปลือง เบี้ยเงินทองของทั้งหลาย” และยังสอนพระภิกษุ สามเณรในวัดอีกว่า “อยู่ที่ไหนก็ให้ทานบริจาคทาน เรื่อยไป ไม่ทำอะไรก็สอนหนังสือหนังหาไป สงเคราะห์อนุเคราะห์กุลบุตร” หลวงปู่จะเดินตรวจตราทั่วบริเวณวัดทุกคืน เพื่อดูว่ามีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นในยามวิกาลหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาที่ฝนตกพรำๆ หลวงปู่บอกว่าผู้ที่ชอบเวลาเช่นนี้มี 2 ประเภท คือ 1. พวกมิจฉาชีพ 2. พวกเจ้าชู้ นอกจากนี้หลวงปู่ยังตรวจดูความเรียบร้อยของพระภิกษุ สามเณร แม่ชี และผู้ที่อยู่ใน ความปกครองของท่านทุกคนว่า มีใครแอบหนีเที่ยวนอกวัดหรือมั่วสุมกันหรือไม่ ท่านจะเดินตรวจดูตาม ห้องพักของพระภิกษุ สามเณรทุกห้อง เมื่อเห็นว่าห้องใดมีแสงไฟและมีเสียงท่องหนังสืออยู่ท่านก็พอใจ แต่หากห้องใดยังเปิดไฟแต่มีเสียงพูดคุยกัน ท่านจะเคาะประตูเตือนให้ปิดไฟ พระครูวิเชียรธรรมโกวิท เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ เล่าว่า “วันหนึ่งขณะหลวงปู่เดินตรวจวัด ตามปกติ ผ่านห้องพักของพระภิกษุห้องหนึ่ง ในห้องมีพระภิกษุอยู่ 2 รูป มีแสงไฟลอดออกมาและมี เสียงคุยกันแว่วๆ” หลวงปู่ก็เคาะประตูเพื่อจะเตือนให้พักผ่อน มีเสียงตะโกนตอบออกมาจากในห้องว่า “ไปข้างหน้าก่อนเถอะ แล้วพรุ่งนี้จะแผ่ส่วนกุศลไปให้” หลวงปู่ได้ยินก็ไม่ได้ตอบอะไร แล้วก็เดินตรวจต่อไป รุ่งเช้าหลังจากพระภิกษุ สามเณรสวดมนต์ทำวัตรเช้าเสร็จแล้ว หลวงปู่จะให้โอวาททุกวัน ท่านจะนำสิ่งที่ ท่านพบจากการตรวจวัดในตอนกลางคืนมาพูดในตอนนี้ เช้าวันนั้นท่านพูดว่า “เออ พระเดี๋ยวนี้เขาแผ่ ส่วนบุญกันเก่งๆ นะ อุปัชฌาย์อาจารย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาก็แผ่ให้ไม่ละเว้น” นอกจากในบางครั้งที่มี ผู้ทำความผิดร้ายแรง หลวงปู่จะเรียกมาพูดเป็นการส่วนตัว ไม่ให้ผู้อื่นล่วงรู้และสั่งให้ออกจากวัดไป ดังนั้น หากครั้งใดที่มีผู้หายจากวัดไปอย่างเงียบๆ ก็เป็นที่รู้กันว่า ผู้นั้นคงจะประพฤติผิดร้ายแรงจนหลวงปู่สั่ง ให้ออกจากวัดไป หลวงปู่จะเปลี่ยนวิธีการตรวจวัดไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ผู้ใดตามทัน เช่น บางคืนท่านจะยืนซุ่ม บนหอพระไตรปิฎก บางคืนท่านจะไม่ครองจีวร สวมเพียงอังสะ ยืนแอบอยู่ตามมุมมืดๆ ถือบุหรี่เห็นแต่ ไฟแดงๆ เพื่อว่าพระที่จะหนีออกไปข้างนอกจะได้ไม่รู้ว่าเป็นหลวงปู่ เพราะตามปกติหลวงปู่จะครองผ้าจีวร เรียบร้อยและไม่สูบบุหรี่ อย่างเช่น มีสามเณรกลุ่มหนึ่งมักจะหนีไปดูหนังเป็นประจำ โดยคิดว่าหลวงปู่ไม่รู้ 40 DOU ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More