ข้อความต้นฉบับในหน้า
“ตาธรรมดา” พระพุทธดำรัสข้างต้นนั้น เป็นปัญหาธรรมมีนัยลึกซึ้งอยู่ ถ้ามิได้ปฏิบัติธรรมก็เข้าใจได้ยาก
เมื่อท่านปฏิบัติได้แล้ว จึงตอบปัญหาได้อย่างง่ายดาย
อาพาธและมรณภาพ
นับจากวันที่หลวงปู่ได้รับมอบหมายให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำเป็นต้นมา ท่านรับภาระ
หนักมาโดยตลอด ท่านมีเวลาพักผ่อนน้อย เพราะเวลาส่วนใหญ่อุทิศให้กับเรื่องการทำภาวนาและ
การบริหารวัดทุกวันไม่ได้ขาด จนล่วงเข้าวัยชรา สุขภาพของท่านก็เริ่มทรุดโทรม ท่านเริ่มอาพาธเป็น
โรคความดันโลหิตสูง เมื่อประมาณกลางเดือนมีนาคม พ.ศ. 2499 ในช่วงแรกอาการของหลวงปู่ขึ้นๆ ลงๆ
มี พล.ร.จ.เรียง วิภัติภูมิประเทศ ร.น. ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารเรือ เป็นแพทย์ประจำของหลวงปู่
ได้มาเยี่ยมดูอาการทุกเช้า-เย็น และให้การรักษาพยาบาลด้วยตัวเอง เมื่อตรวจพบอาการของโรคใดที่
สงสัย ก็จะเชิญผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ มาตรวจรักษาหลวงปู่
ตอนที่เริ่มอาพาธใหม่ๆ หลวงปู่ท่านนัดประชุมพระภิกษุ สามเณร แม่ชี และลูกศิษย์วัดทั้งหมด
ที่ศาลาเก่า ท่านขอให้ทุกคนเป็นเจ้าภาพเลี้ยงพระปีละ 1 วัน โดยให้ไปชักชวนพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ให้ได้
ครบ 365 วัน ตอนนั้นพระครูปัญญาภิรัติคิดว่าหลวงปู่จะปลงสังขารแล้ว จึงได้อาราธนาให้ท่านอยู่นานๆ
เหตุนี้จึงนับเป็นการเริ่มโครงการเลี้ยงพระประจำวัน ซึ่งมีหลวงปู่เป็นผู้ริเริ่ม
หลวงปู่ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ พระมงคลเทพมุนี ในระหว่างอาพาธ ในขณะนั้น
อาการมีแต่ทรงกับทรุด ถึงแม้ว่าอาการจะเป็นอย่างนี้ แต่กำลังใจของท่านยังแข็งแกร่ง ท่านยังเข้ารับ
พระราชทานสัญญาบัตรในพระบรมมหาราชวังได้ด้วยตัวเอง
หลวงปู่ได้นำโยมมารดาของท่านมาเลี้ยงดูอยู่ในวัดปากน้ำเป็นอย่างดี สร้างที่อยู่ให้อย่าง
สะดวกสบายจนตลอดชีวิต โยมแม่เสียชีวิตด้วยโรคงูบินในปี พ.ศ. 2484 เมื่ออายุ 82 ปี หลวงปู่ได้เก็บ
ร่างของโยมแม่ไว้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2500 ท่านได้จัดการฌาปนกิจศพโยมมารดาของท่าน เพื่อเป็นการ
สนองพระคุณ แม้ว่าอาการของโรคจะกำเริบมากขึ้น แต่ท่านก็ยังไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลได้จนตลอด
ก่อนหน้านี้หลวงปู่เคยเข้ารับการผ่าตัดโรคไส้เลื่อนที่โรงพยาบาลศิริราชมาก่อน 1 ครั้ง และต้อง
เข้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์ 2 ครั้ง แม้ว่าท่านจะอาพาธแต่ก็ยังสอนเจริญภาวนา และทำภาวนา
ตามปกติ ท่านจะให้พระภิกษุมานั่งสมาธิใกล้ๆ ท่านทุกวันไม่ได้ขาด
หลวงปู่ท่านมีกำลังใจเข้มแข็งมาก เวลาท่านจะลุก นั่ง ยืน เดิน หรือสรงน้ำ ท่านจะทำเอง
ไม่ยอมให้ผู้อื่นช่วย ท่านไม่เคยบ่นหรือจี้จี้กับใคร ใครนำอาหารมาถวายอย่างไร ก็ฉันอย่างนั้น ถ้ามีผู้ห้าม
จากหนังสือ เทศนาต่างเรื่อง พิมพ์แจกในงานฌาปนกิจศพ โยมแม่สุดใจ มีแก้วน้อย
34 DOU ปฏิปทา มหาปูชนียาจารย์