ข้อความต้นฉบับในหน้า
มรณภาพแล้ว ก็ขอให้ทุกคนช่วยกันสั่งสอนวิชชาธรรมกายนี้สืบไป ไม่ย่อท้อจนกว่าจะสิ้นชีวิต ไม่ให้ไปไหน
ให้อยู่ที่วัดปากน้ำ รอผู้ที่จะมาสืบทอดวิชชาธรรมกายในวันข้างหน้าต่อไป
ในเวลา 13.00 น. เศษ ของวันที่หลวงปู่จะมรณภาพนั้น ท่านมีอาการหอบ จึงได้ตามแพทย์ที่เคย
มาดูแลประจำ แต่แพทย์ไม่อยู่ คุณหญิงชลขันธพินิจ ซึ่งมาคอยดูแลหลวงปู่ในที่นั้นด้วย จึงออกไปตาม
แพทย์ท่านอื่นมา เมื่อมาถึงก็ได้ตรวจอาการของหลวงปู่ สักครู่แพทย์ได้แจ้งให้ทราบว่าหลวงปู่หมด
ความรู้สึกและเส้นโลหิตในสมองแตกแล้ว หมดทางที่จะรักษา ในเวลานั้นพระภิกษุ สามเณร อยู่กันเต็มห้อง
ต่างมองดูหลวงปู่ด้วยใบหน้าสลด
หลวงปู่ท่านมรณภาพอย่างสงบที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 เวลา
15.05 น. สิริรวมอายุได้ 74 ปี 3 เดือน 24 วัน 53 พรรษา ท่ามกลางความโศกสลดและเสียงสะอื้นของ
ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายที่มาแวดล้อมและที่ทราบข่าว เมื่อระฆังและกลองในวัดบันลือเสียงขึ้น ทุกคนน้ำตาคลอ
บ้างก้มลงกราบ บ้างยืนมองแล้วร้องไห้ บ้างเอามือปิดหน้าสะอึกสะอื้น ไม่มีเสียงพูดใดๆ ทั้งสิ้น
วัตรปฏิบัติและปฏิปทา
วัตรปฏิบัติ
วัตรปฏิบัติประจำของหลวงปู่
กิจวัตรประจำวัน
ภารกิจของหลวงปู่มีมาก ท่านแทบไม่ได้พักผ่อน ตามปกติหลวงปู่ตื่นประมาณตี 3 ตี 4 ตื่นแล้ว
นั่งสมาธิ จากนั้นท่านจะเดินรอบวัด โดยมีลุงประยูร สุนทรา เดินตาม พอตีระฆังหกโมงเช้า เป็นสัญญาณ
ว่าได้เวลาฉันภัตตาหารเช้า ท่านจะมาถึงโรงฉันก่อนเป็นรูปแรกเสมอ ท่านจะมานั่งรอที่วงฉัน พอท้องฟ้าสว่าง
พระภิกษุ สามเณรก็จะทยอยกันมา ทุกรูปต้องมาฉันรวมกันที่โรงฉัน ไม่มีการนำภัตตาหารไปฉันที่กุฏิ
เมื่อมีเจ้าภาพมาถวายภัตตาหาร แม้เพียงคนเดียว ท่านก็จะเทศน์เรื่องเกี่ยวกับอานิสงส์การให้ทาน ท่านบอกว่า
ผู้บริจาคจะได้บุญมาก ช่วงสุดท้ายของการเทศน์ ท่านจะสอนให้ทำใจหยุดนิ่ง แล้วท่านจะคำนวณบุญให้ว่า
เจ้าภาพที่มาทำบุญได้บุญแค่ไหน โยมฟังแล้วก็มีทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ แต่ก็ปลื้มปีติทุกคน เมื่อหลวงปู่
เทศน์จบแล้ว เจ้าภาพจะถวายไตรจีวร เมื่อท่านเปลี่ยนไตรและสรงน้ำเสร็จ เจ้าภาพจะเอาน้ำที่เหลือไป
ลูบหัว เพราะถือกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์
36 DOU ปฏิปทา มหาปูชนียาจารย์