ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลวงพ่อออกมาจากหอฉัน เห็นคนพิการ ขามันเป๋ เอ็งลองไปดูซิว่ากายละเอียดของมันเป๋ด้วยหรือเปล่า”
คุณยายท่านก็หาคำตอบมาจนได้
เวลาหลวงปู่ท่านถาม ถ้าใครตอบถูก ท่านก็จะบอกว่า “เออ มันต้องอย่างนี้ซิ” ถ้าไม่ถูก
ท่านจะนิ่งๆ เฉยๆ ถามอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเรื่องยากขึ้นๆ เช่น ถามถึงแขกพาหุรัด ถึงความเชื่อถือ
อะไรต่างๆ ซึ่งคุณยายไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน แต่ด้วยญาณทัสสนะที่แม่นยำ ทำให้ท่านตอบถูกทั้งหมด
นอกจากนี้หลวงปู่วัดปากน้ำท่านจะคอยซักถามคุณยายเสมอว่า “เวลาออกไปที่หอฉันน่ะ เอ็งอยู่ตรงกลาง
หรือเปล่า” ทำให้คุณยายต้องเอาใจไว้ตรงกลางกายตลอด ไม่ให้คลาดเคลื่อนทั้งกลางวัน กลางคืน เมื่อเป็น
อย่างนี้ ความรู้ก็ลึกซึ้งเข้าไปเรื่อยๆ จนในที่สุดท่านได้มานั่งบนเตียงขาดรู้
เตียงขาดรู้นี้ มีลักษณะคล้ายธรรมาสน์สำหรับพระนั่งเทศน์ ขนาดพอดีตัว มีไว้ให้เป็นเกียรติ
สำหรับผู้ที่ธรรมะดีเด่น เวลาคุณยายนั่งสมาธิในตอนกลางคืน จะต้องกางมุ้งครอบไว้อีกทีหนึ่ง เนื่องจาก
เตียงนี้มีขนาดเล็ก จึงเป็นเหตุให้คุณยายต้องนั่งตัวตรง นิ่งอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าเผลอทำตัวเอียงไป
ทางใดทางหนึ่งแม้เพียงนิดเดียว จะถูกยุงกัดทันที ท่านั่งสมาธิของท่านจึงมั่นคง สง่างามที่สุด
ส่วนคำว่า “ขาดรู้” คือ การทำใจให้หยุดนิ่งสนิทสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ จนกระทั่งหลุดจาก
กายหยาบเข้าไปสู่กายธรรมที่ละเอียดขึ้นไปเรื่อยๆ ทิ้งการรับรู้ภายนอก เข้าไปรับรู้ภายใน เมื่อครบ
กำหนดเวลาแล้วจึงถอนการขาดรู้ ทำให้จิตบริสุทธิ์มาก มีพลังมาก ความรู้กว้างขวางมาก และมี
ญาณทัสสนะแม่นยำมาก จนกระทั่งความรู้แตกฉาน ทำให้เข้าใจเรื่องราวของโลกและชีวิตเพิ่มมาก
ขึ้นไปตามลำดับ คุณยายท่านเอาจริงเอาจังจนกระทั่งขยับจากผู้ที่ไม่รู้อะไร มาเป็นผู้รู้อยู่แถวหน้า
ได้รับความไว้วางใจจากหลวงปู่วัดปากน้ำ ให้เป็นหัวหน้าเวรขาดรู้ ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติยิ่ง
สำหรับผู้ศึกษาวิชชาธรรมกายที่ฝึกฝนตนเองมาอย่างดีแล้ว
ครั้นแล้ว วันเวลาที่ไม่พึงปรารถนาก็มาถึง หลังจากที่อยู่วัดปากน้ำครบ 1 เดือน ถึงกำหนดที่
คุณยายจะต้องกลับไปหาคุณนายเลี้ยบ แต่เมื่อผ่านมาถึงเพียงนี้ท่านก็ตั้งใจว่าจะไม่กลับไปอีก เพราะ
ปรารถนาจะศึกษาธรรมะที่ละเอียดยิ่งขึ้น จึงได้ปรึกษากับคุณยายทองสุกว่า “พี่ พี่สุก ฉันไม่กลับแล้วนะ”
“กูก็ไม่กลับโว้ย อีก้าง เราบวชกันดีกว่า” คุณยายทองสุกชวนคุณยายบวชชี
“แล้วเราจะบวชกันอย่างไรล่ะ” คุณยายถาม
“เช่าผ้าเขาบวชกันดีกว่า” คุณยายทองสุกออกความเห็น เพราะในสมัยนั้นการจะหาซื้อผ้า
สักผืน เป็นเรื่องลำบาก จึงต้องใช้วิธีเช่าเขามา เมื่อตัดสินใจดังนั้นแล้วทั้งสองจึงพากันโกนศีรษะ
บวชกันในคืนนั้น ซึ่งหลวงปู่วัดปากน้ำท่านก็ดีใจ
1
คุณยายทองสุกมักจะเรียกคุณยายว่า “อีก้าง” ด้วยความเอ็นดู เนื่องจากคุณยายเป็นผู้มีรูปร่างผอม
ภาคที่ 2 ประวัติคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
DOU 91