ข้อความต้นฉบับในหน้า
ก็ไม่ยอมขยับขึ้นมาข้างหน้าเช่นกัน
ให้ไปดูแลที่ดินและดูแลการก่อสร้าง
ท่านจึงได้รับความไว้วางใจจากหลวงพ่อธัมมชโยและคุณยาย
ส่วนหลวงพ่อธัมมชโยกับคุณยายทำหน้าที่บอกบุญสร้างวัดอยู่ที่
บ้านธรรมประสิทธิ์
เวลานั้นมีคนศรัทธาคุณยายมาก แต่ยังไม่ค่อยศรัทธาหลวงพ่อธัมมชโย เพราะท่านยังเป็น
พระภิกษุหนุ่มอยู่ จึงมักจะมีคำพูดที่แสดงความไม่แน่ใจด้วยว่า “พระหนุ่มๆ อย่างนี้ จะสึกเมื่อไรก็ไม่รู้”
ยิ่งไปกว่านั้น กองทุนเริ่มต้นในการสร้างวัดตอนนั้นมีเพียง 3,200 บาท จึงเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้วว่า
คุณยายจะต้องรับภาระอย่างหนักในครั้งนี้ เพราะที่ดินอันเป็นสถานที่สร้างวัดนั้นยังเป็นเพียงทุ่งนาฟ้าโล่ง
พื้นดินแยกแตกเป็นระแหง เหลียวมองไปทางใดมีแต่ความว่างเปล่าสุดสายตา
เวลานั้น วัยของคุณยายล่วงเข้า 60 ปีแล้ว แม้ว่าสภาพของท้องทุ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า กับเงินทุน
ที่มีเพียงน้อยนิด จะบ่งบอกถึงความยากลำบากในการสร้างวัด แต่คุณยายก็ไม่เคยย่อท้อ ท่านมั่นคงต่อ
ปณิธาน ปรารถนาให้คนทั้งโลกพบกับความสุขอันเกิดจากการเข้าถึงธรรมกายไม่เปลี่ยนแปร ด้วยเหตุนี้
ท่านจึงพร้อมที่จะรับภาระทุกอย่าง
ขุดดินก้อนแรก
การขุดดินก้อนแรกในการก่อสร้างวัด เริ่มในวันมาฆบูชา ตรงกับวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2513
คุณยายเป็นผู้วางแบบแผนในหลายเรื่อง โดยมีหลวงพ่อธัมมชโยรับเป็นธุระเรื่องการก่อสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง
คุณยายจะคอยดูแลให้กำลังใจลูกศิษย์ทุกคน เพราะงานสร้างวัดเป็นงานใหญ่ ต้องอาศัยกำลังใจอย่างมาก
การเริ่มงานครั้งแรกได้ขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยราชการต่างๆ หลายแห่ง สำหรับเรื่อง
การขุดดินซึ่งเป็นงานในระยะแรกนั้น ได้รับความช่วยเหลือจากกรมชลประทาน ซึ่งส่งเรือขุดมาช่วย
ขุดคูคลอง กรมช่างโยธาทหารอากาศช่วยกันสร้างถนนในบริเวณวัด ส่วนกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย
ช่วยออกแบบอาคาร และสิ่งก่อสร้างต่างๆ เป็นต้น
ในระหว่างที่ดำเนินการขุดดินอยู่นั้น เกิดภาวะเงินฝืดขึ้นมากลางคัน ขาดเงินไปหนึ่งหมื่นบาทเศษ
ซึ่งกำหนดจะต้องนำไปจ่ายค่าแรงงานในวันรุ่งขึ้น หลวงพ่อทัตตชีโวถามคุณยายว่า มีเงินเท่าไร คุณยายตอบว่า
มีอยู่พันกว่าบาท หลวงพ่อทัตตชีโวฟังแล้วกระวนกระวายใจอย่างหนัก คุณยายเห็นดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ไปนั่งสมาธิก่อนเถอะ เดี๋ยวยายจะตามสมบัติมาให้
หลวงพ่อทัตตชีโวขึ้นไปนั่งสมาธิตามที่คุณยายบอก แต่ไม่สามารถทำใจให้หยุดนิ่งได้ เพราะกังวล
เรื่องเงินมาก วันนั้นคุณยายนำนั่งสมาธินานเป็นพิเศษ ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม พอเลิกนั่งแล้ว
หลวงพ่อทัตตชีโวก็รำพึงว่า “ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีเงินค่าแรงคนงานเป็นค่าจ้างขุดคันคู คงเกิดเรื่องแน่
118 DOU ปฏิปทา มหาปูชนียาจารย์