ข้อความต้นฉบับในหน้า
7. เสนาสนะอื่นๆ ที่ยังปรากฏเป็นความเจริญรุ่งเรืองอยู่ ณ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จนถึงปัจจุบัน
ตั้งโรงครัว
ตั้งแต่หลวงปู่มาอยู่ที่วัดปากน้ำใหม่ๆ ท่านก็ตั้งโรงครัวขึ้น เนื่องจากมีพระภิกษุ สามเณร
มากขึ้น และท่านไม่ต้องการให้พระภิกษุ สามเณรลำบาก หรือมีความกังวลในเรื่องภัตตาหาร เพื่อจะได้
มีเวลาและกำลังในการศึกษาพระปริยัติธรรมและการปฏิบัติธรรมได้อย่างเต็มที่ ท่านบอกว่าให้ตั้งใจ
ศึกษาเล่าเรียน ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหาร ท่านเริ่มเลี้ยงพระตั้งแต่มีจำนวน 20-30 รูป เรื่อยมาจนกระทั่ง
มีจำนวน 600 กว่ารูป ในช่วงแรกหลวงปู่ให้โยมพี่สาวนำข้าวสารมาจากบ้านที่สองพี่น้องทุกๆ เดือน
ซึ่งต้องใช้ข้าวสารเดือนละ 15 ถังเศษ และต้องจ่ายค่าอาหารเดือนละมากกว่า 150 บาท ต่อมาก็มากขึ้น
เรื่อยๆ แต่หลวงปู่ท่านก็สามารถเลี้ยงได้ทุกวันไม่ได้ขาดจนท่านมรณภาพ (หากรวมแม่ชีและทุกคน
ในวัดแล้ว มีทั้งหมด 1,200 ชีวิต) เพราะมหาทานบารมีของท่านที่เคยให้ทานข้าวคำหนึ่งและกล้วยครึ่งผล
แก่สุนัข รวมทั้งบุญที่ท่านเลี้ยงพระภิกษุ สามเณร แม่ชีอุบาสิกา และลูกศิษย์ ทำให้มีญาติโยมมาเลี้ยงพระทุกวัน
จนต้องจองคิวเพื่อจะมาเลี้ยงพระ
ปัจจุบันแม้ท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่วัดปากน้ำยังมีเจ้าภาพมาเลี้ยงพระทุกวัน เพราะท่าน
สั่งให้เอาร่างท่านเก็บไว้ จะเลี้ยงวัดปากน้ำได้ ทั้งที่ตอนท่านมรณภาพ วัดมีเงินเหลือ 700 บาท เพราะ
ใช้เลี้ยงพระไปหมด ท่านเจ้าคุณราชโมลีขึ้นไปบอกที่หอของหลวงปู่ว่า หลวงปู่เงินหมดแล้วนะเหลืออยู่
แค่ 700 บาทเท่านั้น พอลาจากหอไว้ศพ ก็มีรถบรรทุกข้าวสารมา 2 คัน ตั้งแต่นั้นก็มากขึ้นเรื่อยๆ ทวีมา
เรื่อยจนกระทั่งทุกวันนี้
โรงครัวในสมัยหลวงปู่วัดปากน้ำแต่เดิมเป็นเรือนไม้มุงจาก มีแม่ครัวที่เป็นแม่ชี 100 กว่าคน
แม้จะมีการย้ายที่ตั้งของโรงครัวมาหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ย้ายกลับมาอยู่ที่เดิม ไม่มีการเคลื่อนย้าย
เพราะหลวงปู่เคยบอกไว้ว่า โรงครัวต้องอยู่ตรงนี้ ส่วนในการจัดภัตตาหารนั้น หลวงปู่ได้วางระเบียบ
แบบแผนไว้ทั้งสิ้น เช่น วงฉันทุกวงจะจัดเตรียมไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งกระโถน แก้วน้ำ กาน้ำ เป็นต้น
หลวงปู่ท่านเคยเรียกแม่ชีมาบอกว่า “โต๊ะตั้งตรงนี้นะ กระโถนตั้งตรงนี้ ตั้งเป็นระยะ ผ้าจะปูตรงกลาง
แล้วมีแก้วน้ำ กาน้ำ แก้วน้ำนี้ต้องตวงน้ำด้วย ท่านต้องทำให้สะอาดนะ ทำไปนะกุศลใหญ่ บุญใหญ่”
สมัยนั้นยังใช้น้ำกรองตักจากแท็งก์ใหญ่ เวลาพระฉันเสียงจะเบามาก ทั้งๆ ที่พระมีจำนวนมาก เพราะท่าน
ไม่ให้คุยกัน
ในสมัยหลวงปู่ แม่ชีท้วม หุตานุกรม เป็นผู้ดูแลเรื่องในครัว เวลาไปซื้อกับข้าว จะใช้เรือสำปั้นแจวไป
โดยให้แม่ชีจินตนา โอสถ ช่วยแจวเรือไปซื้อที่วัดกลาง (วัดจันทราราม) เลยตลาดพลูไปไม่ไกล ถ้าของมากๆ
ก็ต้องไปซื้อถึงท่าเตียน หลังจากช่วงปี พ.ศ. 2505 ถนนเข้าถึงวัดปากน้ำ จึงเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไปซื้อ ซึ่ง
สะดวกกว่า
30 DOU ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์