ความคิดเกี่ยวกับชีวิตและการตาย GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์ หน้า 27
หน้าที่ 27 / 157

สรุปเนื้อหา

ในขณะที่ท่านถือเรือเป็นเจ้าของ ได้เกิดความคิดตัดสินใจมองเห็นคุณค่าของชีวิตและการไม่เอาเปรียบลูกจ้าง จึงเลือกที่จะช่วยเหลือผู้อื่นมากกว่าตัวเอง ขณะเดียวกันท่านก็คิดถึงความตายและพยายามเตรียมตัวเพื่อบวชให้ได้ก่อนเสียชีวิต ความคิดนี้นำมาซึ่งการไตร่ตรองถึงคุณค่าของทรัพย์สินและชีวิตที่แท้จริง สุดท้ายท่านอธิษฐานให้ไม่ตายก่อนที่จะบวชเพื่อเป็นการทำความดีให้กับสังคม.

หัวข้อประเด็น

-การพิจารณาความเป็นมนุษย์
-เมตตาต่อผู้อื่น
-การเตรียมตัวสำหรับความตาย
-คุณค่าของชีวิต
-การบวชเป็นพระ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ขณะถ่อเรือแทนลูกจ้างอยู่นั้น พลันเกิดความคิดขึ้นมาว่า “คนพวกนี้ เราจ้างเขาคนหนึ่งๆ เพียง 11-12 บาทเท่านั้น ส่วนตัวเราเป็นเจ้าของทั้งทรัพย์ทั้งเรือ หากจะโยนความตายไปให้ลูกจ้างก่อน ก็ดูจะ เอาเปรียบเพื่อนมนุษย์มากเกินไป ทำอย่างนี้ไม่ถูกไม่สมควร” เมื่อเกิดจิตเมตตาและนึกตำหนิตัวเองเช่นนี้ ท่านจึงตัดสินใจเด็ดขาดลงไปว่า “ทรัพย์ก็ของเรา เรือก็ของเรา เราควรตายก่อนดีกว่า ส่วนลูกจ้างนั้น เมื่อมีภัยมาถึง เขาควรจะได้หนีเอาตัวรอด ไปทำมา หาเลี้ยงบุตรภรรยาของเขาได้อีก” เมื่อตกลงใจเช่นนั้น จึงเรียกลูกเรือให้มาถ่อเรือแทน ส่วนตัวเองก็ถือปืนคู่มือ กลับมานั่งถือท้ายเรือตามเดิม เรือยังคงแล่นต่อไปเรื่อยๆ แต่ไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างที่คิด เมื่อเรือแล่นมาใกล้จะออก จากคลอง จนเห็นปากทางออก ก็รู้ได้ว่าปลอดภัยแล้ว แต่ในใจของท่านยังคิดถึงความตายอยู่ตลอดเวลา และทันใดนั้น ธรรมสังเวชก็เกิดขึ้นในใจของท่านว่า “การหาเงินหาทองนี้ลำบากจริงๆ เจียวหนา บิดา ของเราก็หามาดังนี้ เราก็หาซ้ำรอยบิดา ตามบิดาบ้าง เงินแลทองที่หากันทั้งหมดด้วยกันนี้ ต่างคนก็ ต่างหา ไม่มีเวลาหยุดด้วยกันทั้งนั้น ถ้าใครไม่เร่งรีบหาให้มั่งมี ก็เป็นคนต่ำและเลว ไม่มีใครนับถือแล คบหา เข้าหมู่เขาก็อายเขา เพราะเป็นคนจนกว่าเขา ไม่เทียมหน้าเทียมบ่าเทียมไหล่กับเขา ปุรพชน ต้นสกุลของเราก็ทำมาดังนี้ เหมือนๆ กันจนถึงบิดาของเรา แลตัวของเรา ก็บัดนี้ปุรพชนแลบิดาของ เราไปทางไหนหมด ก็ปรากฏแก่ใจว่าตายหมดแล้ว แล้วตัวของเราเล่า ก็ต้องตายเหมือนกัน” เมื่อคิดถึงความตายขึ้นมาอย่างนี้ก็เริ่มกลัว และนึกถึงความตายที่จะมาถึงตัวเองต่อไปอีกว่า “เราต้องตายแน่ๆ บิดาเราก็มาล่องข้าว ขึ้นจากเรือข้าวก็เจ็บมาจากตามทางแล้ว ขึ้นจากเรือข้าว ไม่ได้กี่วันก็ถึงแก่กรรม เมื่อถึงแก่กรรมแล้ว เราที่ช่วยพยาบาลอยู่ ไม่ได้เห็นเลยที่จะเอาอะไรติดตัวไป ผ้าที่นุ่งแลร่างกายของแก เราก็ดูแลอยู่ ไม่เห็นมีอะไรหายไป ทั้งตัวเราแลพี่น้องของเราที่เนื่องด้วย แก ตลอดถึงมารดาของเราก็อยู่ ไม่เห็นมีอะไรเลยที่ไปด้วยแก แกไปผู้เดียวแท้ๆ ก็ตัวเราเล่าต้องเป็น ดังนี้ เคลื่อนความเป็นอย่างนี้ไปไม่ได้แน่” เมื่อท่านคิดอย่างนี้แล้ว ท่านก็นอนแผ่ลงไปที่ท้ายเรือ แกล้งทำเป็นตาย ลองดูว่าถ้าตายแล้วจะ เป็นอย่างไร ท่านก็นอนคิดว่าตัวเองตายอย่างนั้นจนเผลอสติไปสักครู่หนึ่ง เมื่อได้สติรู้สึกตัวก็รีบลุกขึ้น จุดธูปอธิษฐานจิตว่า “ขออย่าให้เราตายเสียก่อน ขอให้ได้บวชเสียก่อนเถิด ถ้าบวชแล้วไม่สึกตลอดชีวิต” 2507 บันทึกของพระมงคลเทพมุนี (ซึ่งท่านเป็นผู้บันทึกเอง) ลงพิมพ์ใน “มงคลสาร” ปีที่ 1 เล่มที่ 1, ฉบับ 1 กันยายน 12 DOU ปฏิปทา มหาปูชนียาจารย์
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More