ข้อความต้นฉบับในหน้า
คลองจะเป็นถนน (เดินทางด้วยรถยนต์แทนเรือ) ถนนจะเป็นเส้นขนมจีน (ทางด่วน) หลวงปู่ท่านพูดอะไร
จะพูดล่วงหน้าเป็นสิบๆ ปี อย่างเช่น ถนนสายบางนา ท่านบอกว่าต่อไปจะเป็นสายใหญ่ สายนี้จะไปจังหวัดตราด
จังหวัดชลบุรี ทั้งที่ในสมัยนั้นยังเป็นสวนเป็นทุ่งนาอยู่ เห็นหมู่บ้านไกลลิบ
อีกคราวหนึ่ง ตอนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงนั้นมีมดแดงกัดกัน ตายเป็นกองเลย หลวงปู่
ท่านบอกว่า อีก 7 วัน สงครามจะเลิก พอถึง 7 วัน สงครามก็ยุติจริงๆ
มีเรื่องราวของศิษย์หลวงปู่อีกท่านหนึ่ง คือ พลตรีโสภณ กะราลัย ได้เข้าวัดปากน้ำมาตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2480 ในสมัยที่มียศเป็นร้อยโท เมื่อสมรสกับคุณประทุมแล้ว ก็ได้พาภรรยามาเป็นศิษย์ของหลวงปู่ด้วย
เมื่อลูกคนแรกของท่านอายุได้ประมาณ 8 เดือน หลวงปู่ได้ให้คนมาบอกที่บ้านพักในกรมทหารว่า ให้ระวัง
ลูกจะเจ็บหนัก คุณประทุมฟังแล้วก็นึกสงสัยว่าลูกจะเจ็บเป็นอะไรมากน้อยแค่ไหน ในเมื่อขณะนั้นลูกยัง
แข็งแรงดี ไม่มีทีท่าว่าจะเจ็บป่วย แต่เมื่อทราบจากหลวงปู่เช่นนั้น ก็พยายามระมัดระวังดูแลลูกอย่างดีที่สุด
ต่อมาอีกสองสามวันหลังจากที่หลวงปู่ให้คนมาเตือน ลูกก็ป่วยเป็นโรคบิดอย่างแรง จนกระทั่งหมอไม่
รับรองว่าจะรอดชีวิตหรือไม่ แต่ก็พยายามรักษาอย่างเต็มที่
พลตรีโสภณรีบมาถวายใบแจ้งอาการของโรคนั้นแก่หลวงปู่ ท่านรับใบอาการโรคแล้วส่งให้
ศิษย์ที่ทำวิชชาช่วยกันแก้โรค ท่านบอกว่า “มันจะเอาไป เราต้องต่อสู้กันหน่อย จะแก้ไขให้” ครั้งที่สอง
พลตรีโสภณไปถวายใบแจ้งอาการอีกครั้ง หลวงปู่รับใบแจ้งอาการโรคนั้นไปดู แล้วบอกว่าปลอดภัยแล้ว
หลังจากนั้นลูกของพลตรีโสภณก็มีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ และหายเป็นปกติ
ครั้นเมื่อหลวงปู่อาพาธหนัก คือ ประมาณปลายปี พ.ศ. 2501 พลตรีโสภณ (ขณะนั้นมียศ
เป็น พ.อ.) กับคุณประทุม ได้มากราบเยี่ยมหลวงปู่บ่อยขึ้น วันหนึ่งขณะที่กำลังเข้าเยี่ยม หลวงปู่ได้
สั่งให้สามเณรไปหยิบดวงแก้วมา 1 ดวง เมื่อได้มาแล้วท่านมองสำรวจดูทุกคนที่อยู่ในห้อง พยักหน้าเรียก
พลตรีโสภณให้เข้าไปหาใกล้ๆ และบอกว่า “กายสิทธิ์ ดวงนี้ชื่อบรมจักร องค์นี้น่ะ เลี้ยงวัดปากน้ำ
เชียวนะ ทำวิชชาควบคู่กันมา ข้าจะให้เอ็ง ไปไหนให้เอาติดตัวไปด้วย”
พลตรีโสภณเล่าว่า ครั้งนั้นตนเองรู้สึกปลาบปลื้มยินดีมากที่สุด ที่หลวงปู่ให้กายสิทธิ์ดวงที่
สำคัญ เป็นกายสิทธิ์ขนาดใหญ่ แต่ครั้นกลับมาถึงบ้านความปลาบปลื้มยินดีกลับลดลงไป เพราะไม่แน่ใจว่า
หลวงปู่ท่านตั้งใจให้ตนแน่หรือเปล่า และเกิดลังเลว่าของพิเศษเช่นนั้นสมควรจะมาตกอยู่กับตนหรือไม่
วันรุ่งขึ้นจึงตัดสินใจแน่นอนว่า จะนำกายสิทธิ์บรมจักรไปคืนหลวงปู่ เมื่อเข้าไปหาท่านในห้อง ก็
รอหาโอกาสที่จะเข้าไปใกล้ๆ เพื่อจะคืนกายสิทธิ์ แต่ยังไม่ทันจะทำตามที่คิด ก็เห็นหลวงปู่จ้องดูทุกคนที่อยู่
1 สมัยนั้นต้องส่งใบอาการโรค 3 ครั้ง คือ เช้า กลางวัน และเย็น
"กายสิทธิ์ในที่นี้ หลวงปู่ท่านถือว่าเป็นแก้วมณีประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในรัตนะทั้งเจ็ดของพระเจ้าจักรพรรดิ คือ
ช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว นางแก้ว จักรแก้ว และมณีแก้ว
68 DOU ปฏิปทา มหาปูชนียาจารย์