ข้อความต้นฉบับในหน้า
นับแต่วันนั้นมา หลวงพ่อมีความกระตือรือร้น ปรารถนาที่จะพบคุณยายมาก แม้ว่าที่พักของท่าน
จะอยู่ข้างวัดใหม่ศรีสุพรรณ ซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดพลู แต่ท่านก็ยังไม่มีโอกาสไปวัดปากน้ำอยู่นั่นเอง
สามปีต่อมา เมื่อหลวงพ่อท่านอายุได้ 18 ปีเต็ม ย่างเข้า 19 ปี ในระหว่างที่มีเวลาว่างหลังจาก
การสอบเข้ามหาวิทยาลัย ประกอบกับความรู้สึกอันแน่วแน่ที่จะไปตามหาคุณยายให้พบ เป็นเหตุผลักดัน
ให้ท่านหาหนทางไปวัดปากน้ำจนได้ ท่านไปโดยที่ไม่รู้จักใคร ขณะที่เดินลัดเลาะผ่านอาคารหลังหนึ่ง
ท่านแลเห็นคุณยายกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าที่ตั้งศพของคุณยายทองสุกคุณยายนั่งหันหลังมาทางหลวงพ่อ
เวลานั้นหลวงพ่อไม่รู้ว่าคุณยายเป็นใคร ทั้งยังจำไม่ได้ว่าเป็นคนๆ เดียวกับในหนังสือที่เคยอ่านหรือไม่
เมื่อไม่พบผู้ที่ต้องการมาหา จึงกลับไปด้วยความผิดหวัง
จากวันนั้น หลวงพ่อก็ไม่ได้ไปที่วัดปากน้ำอีก ท่านกลับไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม คำถาม 2 ข้อที่ว่า “เราเกิดมาทำไม และอะไรคือเป้าหมายชีวิต”
ก็ไม่เคยลบเลือนไปจากจิตใต้สำนึกของท่านเลย มีแต่ทวีความสนใจใคร่รู้คำตอบมากยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้น ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2506 ซึ่งเป็นช่วงเวลาปิดภาคการศึกษา ท่านจึงไปตามหาคุณยาย
ที่วัดปากน้ำอีกครั้งหนึ่ง พอไปถึงคราวนี้ก็เที่ยวถามใครต่อใครว่า “รู้จักคุณแม่อาจารย์ลูกจันทร์ไหม”
แต่ปรากฏว่าไม่มีใครที่รู้จักแม้แต่คนเดียว มีแต่บอกว่า “ไม่มีคุณแม่อาจารย์ มีแต่ครูจันทร์” ท่านฟังแล้ว
ก็คิดว่าเป็นคนละคนกัน
ในขณะนั้นมีหลวงตารูปหนึ่งแนะนำให้ท่านไปเรียนธรรมะกับพระอาจารย์วีระ คณุตตโม (ปัจจุบัน
ดำรงสมณศักดิ์ที่ พระภาวนาโกศลเถร) ซึ่งนำวิธีปฏิบัติธรรมของหลวงปู่วัดปากน้ำมาสอน พระอาจารย์
วีระเมตตาให้ท่านนั่งอยู่ตรงลำโพง ซึ่งถ่ายทอดเสียงจากโรงงานทำวิชชาออกมา เมื่อฟังครั้งแรก ท่านก็
ไม่เข้าใจ เพราะเป็นเรื่องลึกซึ้ง เช่น เรื่องแก้ไขทุกข์ของมนุษย์ แก้ไขข้าวยากหมากแพง ทำให้ฝนตก
ต้องตามฤดูกาล แก้ไขโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และเรื่องพญามาร วนเวียนอยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง แม้จะฟัง
ไม่เข้าใจ แต่ก็รู้สึกว่าในใจนั้นชุ่มเย็น วันต่อมาท่านจึงมานั่งฟังอีก และมาทุกวันเป็นเวลาติดต่อกัน
ถึง 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อท่านก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะไปพบคุณยายให้ได้ วันหนึ่งท่านจึง
ตัดสินใจหันไปถามเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันที่นั่งปฏิบัติธรรมอยู่ข้างๆ ว่า “รู้จักคุณแม่อาจารย์
ลูกจันทร์ไหม” เด็กหนุ่มคนนั้นตอบว่า “ไม่มี มีแต่ครูจันทร์” เหมือนอย่างที่ท่านเคยได้คำตอบมาแล้ว
แต่ครั้งนี้ท่านตัดสินใจไปพบ “ครูจันทร์” ด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วยความหวังว่าอาจจะเป็นคนเดียวกัน
คราวนี้หลวงพ่อได้พบกับคุณยายที่หน้าหอไว้สรีระของหลวงปู่วัดปากน้ำ ขณะนั้นคุณยายกำลัง
เดินไปธุระ แม้ว่าลักษณะรูปร่างของท่านจะผอมมาก ดูแล้วเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ไม่มีอะไรพิเศษ
แต่แววตาที่สุกใสนั้นเปี่ยมล้นด้วยความเมตตา เด็ดเดี่ยวและสูงส่งด้วยภูมิธรรม ซึ่งมากพอที่จะเป็น
แรงบันดาลใจให้หลวงพ่อคิดอย่างเชื่อมั่นว่า นี่คือครูบาอาจารย์ของท่าน เป็นผู้เดียวที่จะสามารถ
100 DOU ปฏิปทา มหาปูชนียาจารย์