ข้อความต้นฉบับในหน้า
อาหารมา การบริโภคขบฉัน เป็นต้น ระเบียบหรือกฎเกณฑ์นี้มีไว้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของ
หมู่คณะและการมีชีวิตที่ดีงามยิ่งขึ้นไป
เมื่อคนเราเกิดมาจะดำรงชีวิตอยู่ได้ก็ด้วยอาหาร อาหารเป็นสิ่งที่เกิดคู่โลกนี้มาตั้งแต่มีมนุษย์
มาเกิดขึ้นบนโลกนี้เป็นครั้งแรก แม้เมื่อเราลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรกก็ได้รับอาหารจากมารดา ซึ่งอาหารใน
ช่วงแรกของคนเรานั้นคือนม แล้วอาหารจะสามารถฝึกฝนพัฒนานิสัยของคนเราได้อย่างไร
การให้นมของแม่ก็เพาะนิสัยให้ลูกได้
พอจับหลักตรงนี้ได้ แทบไม่น่าเชื่อว่าแค่การให้นมของแม่ที่แตกต่างกัน ก็เพาะนิสัยลูกให้แตกต่าง
กันได้ เพราะว่า ในขณะที่เด็กกินนม ถ้าคุณพ่อคุณแม่ให้ลูกน้อยย้ำคิด พูด ทำในทางที่ดี ลูกจะได้นิสัยดี
แต่ถ้าลูกย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำในทางที่เลว ลูกก็จะได้นิสัยเลว
ยกตัวอย่างเด็ก 3 คน ที่ได้รับการให้นมจากคุณแม่ในลักษณะที่ต่างกัน ก็มีผลทำให้นิสัยออกมา
ไม่เหมือนกัน
คนที่ 1 ให้นมไม่ตรงเวลา
ในการป้อนนมให้ลูก คุณแม่จะมีวิธีให้นมอยู่ 2 แบบ คือ
1) เอานมใส่ขวดให้ลูกดูด
2) เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมของแม่
แต่ไม่ว่าคุณแม่จะให้นมด้วยวิธีไหนก็ตาม เมื่อถึงเวลาให้นม คุณแม่ไม่ให้ อาจจะติดอะไรก็ตาม เช่น
คุณแม่อาจจะมีฐานะไม่ค่อยดี เลยต้องไปทำงานเป็นลูกจ้าง งานกำลังยุ่ง ปลีกตัวมาเอานมให้ลูกกินไม่ได้
เมื่อถึงเวลากินนม แต่ไม่ได้กิน ด้วยความหิวจัด ไม่รู้จะทำอย่างไร ลูกก็ร้องดังลั่นอยู่ในเปลตลอดเวลา
ต้องรอให้ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ค่อนชั่วโมง คุณแม่จึงค่อยมีเวลามาป้อนนมให้ลูกได้
ถามว่า ถ้าคุณแม่ทำอย่างนี้เป็นประจำอยู่ทุกๆ วัน จะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้?
นิสัยแรก คือ นิสัยเจ้าโทสะ มักโกรธ เกิดขึ้นแล้ว
โดยมีคุณแม่เป็นผู้เพาะนิสัยเจ้าโทสะนี้ให้แก่ลูก ถ้าไม่รีบแก้ไข ต่อไปข้างหน้า พอเด็กแค่หัดคลาน
ได้เท่านั้น หยิบอะไรได้ จะกระชากขาดหมด เช่น ถ้าไปหยิบอะไรของพี่สาวได้ จะกระชากขาดติดมือมาเลย
หรือบางทีไปเห็นตุ๊กตาของคนอื่นที่เขากำลังเล่นอยู่ เกิดอยากเล่นบ้าง ก็จะตรงไปกระชากขาดติดมือมาเลย
ทำไมเด็กคนนี้จึงได้เจ้าโทสะ โมโหร้าย กลายเป็นเด็กที่ไม่น่ารักไป ก็เพราะว่าคุณแม่เป็นคนเพาะ
นิสัยให้ ถึงเวลากินไม่ได้กินอยู่เป็นประจำ เด็กต้องออกแรงร้อง ต้องเกรี้ยวกราดถึงจะได้กิน เมื่อคุ้นกับ
การแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดตั้งแต่อยู่ในเปลจึงจะได้กิน นิสัยมักโกรธจึงเกิดขึ้น
18 DOU วั ฒ น ธ ร ร ม ช า ว พุ ท ธ