ข้อความต้นฉบับในหน้า
12. อาราธนาพระปริตร เมื่อรับศีลจบแล้ว จึงกราบลง 3 ครั้ง หรือยืนไหว้แล้วแต่กรณี อาราธนา
พระปริตรต่อไป
13. จุดเทียนน้ำมนต์ เมื่อพระภิกษุสงฆ์สวดมนต์ถึงบทมงคลสูตร ขึ้นบทว่า “อะเสวะนา จะ
พาลานัง” ให้เจ้าภาพจุดเทียนน้ำมนต์ติดกับบาตรหรือขันน้ำมนต์ ยกขันน้ำมนต์ถวายแด่ประธานสงฆ์
เหตุที่จุดเทียนน้ำมนต์ตอนนี้เพราะเทียนน้ำมนต์ใช้แทนเทียนมงคลจึงต้องจุด เมื่อพระท่านสวดถึงบท
มงคลสูตร
ก็เพื่อให้เป็นสิริมงคลในงานนั้น
14. ถวายสำรับบูชาพระพุทธ ถ้ามีการฉันเช้าหรือฉันเพล หลังจากพระเจริญพระพุทธมนต์เสร็จ
แล้ว เมื่อพระท่านสวดถึงบท “พาหุงสะหัสสะมะ ภินิมมิตะสาวุธันตัง” ถ้าเป็นงานมงคลสมรส ให้คู่บ่าว
สาวออกไปตักบาตร โดยจับด้ามทัพพีเดียวกัน มีคนคอยส่งข้าวของใส่บาตรให้ เมื่อใส่บาตรแล้ว ก็ควรนำ
สำรับบูชาพระพุทธมาถวายในขณะนั้น คำบูชาว่าดังนี้
อิมัง สูปะพยัญชะนะสัมปันนัง สาลีนัง
โภชะนัญจะ อุทะกัง วะรัง สัมพุทธัสสะ ปูเชมิ ฯ
ข้าพเจ้าขอบูชาพระพุทธ ด้วยโภชนาหารอันประณีต ด้วยน้ำอันสะอาด
ประเสริฐแด่พระพุทธเจ้า (จบแล้วกราบ 3 ครั้ง)
ข้อควรปฏิบัติ การทำบุญทุกครั้งต้องถวายสำรับบูชาพระพุทธก่อน จึงถวายอาหารบิณฑบาต
แด่พระภิกษุสงฆ์ เมื่อพระภิกษุสงฆ์ฉันเสร็จแล้ว จึงลาสำรับพระพุทธว่าดังนี้ “เสสัง มังคะลัง ยาจามิ
(3 ครั้ง)
15. ประเคนอาหารพระภิกษุสงฆ์ ขณะประเคนอาหาร ควรเข้าไปใกล้พระสงฆ์ประมาณ 1 ศอก
ยกของที่ประเคนให้สูงขึ้นจากพื้น ไม่ควรกระทบต่อสิ่งกีดขวางอย่างอื่นสูงพอประมาณ ของที่ประเคนแล้ว
ห้ามมิให้ถูกต้องอีก ถ้าถูกด้วยความพลาดพลั้งต้องรีบยกประเคนใหม่ ประเคนของทีละอย่างๆ ถ้าเป็นของเล็กๆ
จะประเคนด้วยมือเดียวก็ได้ แต่ต้องประเคนด้วยมือขวา ถ้าเป็นงานมงคลสมรส คู่สมรสประเคนวางลงบน
ผ้าที่พระท่านปูรับ
ขณะพระกำลังฉัน เจ้าภาพควรนั่งปฏิบัติด้วยการดูแลให้ทั่วถึง และควรปวารณาว่า สิ่งใด
ขาดตกบกพร่องขอให้เรียกได้ตามประสงค์ เมื่อพระฉันอาหารเสร็จแล้ว ถอนสำรับคาวออกก่อน นำของหวาน
ประเคนต่อไป ถ้ามีน้ำชาก็ควรรีบถวายตอนนี้ด้วย ช้อนส้อมของหวานไม่ควรลืม
16. การถวายเครื่องไทยธรรม เมื่อพระฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว กรุณานำเครื่องไทยธรรมที่จะ
ถวายพระมา เช่น ดอกไม้ธูปเทียน ห่อของถวายที่จัดเตรียมไว้ ถวายตามลำดับ เริ่มตั้งแต่ประธานสงฆ์
บ ท ที่
6 ศ า ส น พิ ธี
DOU 115