ประโยชน์ของการจัดเก็บสิ่งของเป็นระเบียบ SB 202 วัฒนธรรมชาวพุทธ หน้า 49
หน้าที่ 49 / 169

สรุปเนื้อหา

การจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบสามารถช่วยเพิ่มมาตรฐานชีวิต ลดเวลาในการจัดการ หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง สร้างสภาพแวดล้อมที่สงบ ทั้งยังส่งเสริมอารมณ์ที่ดีให้กับผู้คนรอบข้าง นอกจากนี้ ความสะอาดยังเผยให้เห็นถึงคุณธรรมของผู้ดูแล การรักษาความสะอาดนั้นมีความสำคัญและต้องทำด้วยหลักการง่าย ๆ เช่น การทำความสะอาดทั้งหยาบและละเอียด ทุกวันเพื่อชีวิตที่มีวินัยและสงบสุข

หัวข้อประเด็น

-ประโยชน์ของการจัดเก็บสิ่งของ
-การรักษาความสะอาด
-วิธีการทำความสะอาด
-การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
-การปราบกิเลสในใจ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยชน์ของการจัดเก็บสิ่งของเป็นระเบียบมาตรฐานเดียวกัน 1. ชีวิตมีมาตรฐาน ไม่ต้องเสียเวลา เสียความคิดกับการจัดการข้าวของ หาของ ทำให้มีเวลาสำหรับ การทำงาน การศึกษาเล่าเรียน การฝึกตนเองและทำหยุดนิ่งได้เต็มที่ 2. ลดการกระทบกระทั่งในหมู่คณะ ทำให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข 3. เป็นพื้นฐานของความมีศีล และทิฏฐิเสมอกันของหมู่คณะ 4. ใจสงบผ่องใส แม้ผู้อื่นที่พบเห็นก็ใจผ่องใสตามไปด้วย สามารถเข้าถึงธรรมได้ง่าย 5. ทําให้เป็นคนละเอียดรอบคอบ 3.2.2 การปัดกวาดเช็ดถู ความสะอาดของสถานที่ตลอดถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ในอาคารหรือสำนักงานเป็นเครื่อง แสดงให้เห็นถึงคุณธรรมภายในของผู้เป็นเจ้าของว่ามีมากน้อยเพียงไร การรักษาความสะอาดสถานที่และ อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ เป็นการยืดอายุการใช้งานของสิ่งต่างๆ ดังกล่าวนั้นด้วย และที่สำคัญคือ ทำให้ อารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของ ตลอดจนผู้มาเยือนผ่องใส ไม่หงุดหงิด ทำให้ใจสงบกลับเข้าศูนย์กลางกายได้ง่ายขึ้น 1. การกวาดและการ ละเอียด วิธีการที่จะฝึกให้กาย วาจา ใจ สะอาดได้นั้น มีหลักง่ายๆ คือ ต้องทำความสะอาดทั้งหยาบและ ความสกปรกอันเกิดจากร่างกาย วาจา ได้แก่ ขยะที่เราทิ้งเอาไว้ ปากที่เราถ่มเสลดถ่มเศษอาหาร ลงไป ทำเลอะเทอะเปรอะเปื้อนต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะทำความสะอาดได้ต้องกวาด ถ้าเป็นชิ้นใหญ่ ก็ต้องใช้ ไม้กวาดที่หยาบๆ ใหญ่ๆ แข็งๆ ไปกวาด ถ้าเป็นขยะที่เป็นฝุ่นเป็นผงก็ใช้ไม้กวาดที่อ่อนลงมาตามลำดับ เอามากวาด แต่ถ้าเป็นฝุ่นที่ละเอียดๆ ลงมากวาดไม่ไปแล้ว ต้องใช้ผ้าขี้ริ้วชุบน้ำเช็ด ทำความสะอาดให้ทั่ว ในการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่เป็นคณะ หรือแม้อยู่เพียงลำพังคนเดียว การรักษาความสะอาดถือว่า เป็นหัวใจหลัก จะต้องทำความสะอาดทุกวัน การอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะนอกจากการรักษาความสะอาด ส่วนตัวแล้ว ในด้านส่วนรวมจะต้องช่วยกัน เพราะจะช่วยลดการกระทบกระทั่งกัน และยังเป็นการช่วย ส่งเสริมอารมณ์ระหว่างกันให้ผ่องใส ส่วนการปราบกิเลสอันเป็นสิ่งสกปรกที่อยู่ในใจ ที่คอยบังคับให้กระทำสิ่งไม่ดี ทางกาย วาจา ใจ เช่น คิดเอาเปรียบ คิดอิจฉา คิดทำร้าย จนกระทั่งลงมือกระทำตามความคิดนั้น เช่น แสดงอาการไม่พอใจ โกรธ พูดคำสกปรก พูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ พูดส่อเสียด ก็ต้องทำความสะอาดด้วยการนั่งสมาธิ เจริญภาวนา จนกระทั่งใจหยุดใจนิ่ง เกิดปัญญารู้แจ้งไปขจัดกิเลสเหล่านั้น 40 DOU วั ฒ น ธ ร ร ม ช า ว พุ ท ธ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More