ข้อความต้นฉบับในหน้า
3. เมื่อขอขมาแล้ว จึงปักธูป ณ ที่ปัก นั่งพับเพียบหมอบกราบ กระพุ่มมือ (คือนั่งพับเพียบ
ตะแคงตัวข้างขวาหันหน้าไปทางศพ วางมือขวาลงก่อน แล้ววางมือซ้ายลงแนบกับมือขวา
ประนมมือตั้งอยู่กับพื้น พร้อมกับหมอบให้หน้าผากลงจรดสันมือ) พร้อมตั้งใจอธิษฐานแล้วลุก
ขึ้น
หมายเหตุ : ถ้าเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องประกอบเกียรติศพนั้น ผู้ไปเคารพศพ ไม่ต้องจุดธูปบูชาศพ
การแสดงความเคารพศพพระภิกษุสงฆ์
1. นิยมแต่งกายตามแบบเช่นเดียวกับศพคฤหัสถ์
2. เมื่อวางเครื่องสักการบูชาแล้ว นิยมนั่งคุกเข่าตามเพศ สุภาพบุรุษนั่งคุกเข่าตั้งเท้าท่าเทพบุตร
สุภาพสตรีนั่งคุกเข่าเท้าราบท่าเทพธิดา จุดธูป 1 ดอก ประนมมือยกธูปขึ้นตั้ง ให้ปลาย
นิ้วหัวแม่มืออยู่ระหว่างคิ้ว ปลายนิ้วชี้จรดหน้าผากพร้อมกับตั้งใจขอขมาโทษ
3. เมื่อขอขมาโทษแล้ว จึงปักธูป ณ ที่ปักธูป กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ 3 ครั้ง พร้อมกับ
นึกอธิษฐาน
การไปงานฌาปนกิจศพ
นิยมแต่งกายไว้ทุกข์ตามความนิยมของสังคมท้องถิ่นนั้นๆ
ลำดับการขึ้นเมรุศพ
1. ถ้าเป็นงานพระราชทานเพลิงศพ นิยมขึ้นเมรุตามลำดับทางคุณวุฒิ คือ ผู้มียศถาบรรดาศักดิ์
สูงกว่าขึ้นไปเผาก่อน ผู้มีคุณวุฒิน้อยกว่าขึ้นภายหลัง
2. ถ้าเป็นงานฌาปนกิจศพ นิยมขึ้นเมรุเผาศพตามลำดับทางวัยวุฒิ คือ อายุมากกว่าขึ้นไปเผาก่อน
ผู้มีอายุน้อยกว่าขึ้นภายหลัง
วิธีปฏิบัติในการเผาศพ
1. เมื่อขึ้นไปถึงเมรุแล้วนิยมยืนตรง ห่างจากศพประมาณ 1 ก้าว ถ้าแต่งเครื่องแบบข้าราชการ
นิยมยืนตรงโค้งคำนับ ถ้าไม่ได้แต่งเครื่องแบบข้าราชการ นิยมน้อมตัวลงยกมือไหว้พร้อมทั้ง
ธูป เทียน ดอกไม้จันทน์ในมือ (เฉพาะศพที่มีอายุมากกว่า หรือรุ่นราวคราวเดียวกัน) แล้วตั้ง
จิตขอขมาโทษต่อศพ
บ ท ที่
6 ศ า ส น พิ ธี DOU 137