ข้อความต้นฉบับในหน้า
อีกอย่างหนึ่งที่ต้องมีเวลางานมงคลคือน้ำมนต์ซึ่งถือว่าเป็นมงคลดังนั้นเมื่อรับพรจากพระภิกษุสงฆ์
แล้ว จึงนิยมมีการพรมน้ำมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เจ้าภาพและผู้มาร่วมงาน เนื่องจากเป็นการขับไล่สิ่งไม่
ดีออกไป โดยถือคติตามในพระไตรปิฎกที่กล่าวถึงประวัติของน้ำมนต์ดังจะกล่าวต่อไปนี้
ในสมัยที่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระนครราชคฤห์ ขณะนั้นที่เมืองเวสาลี
ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นวัชชี เกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง ฝนแล้ง ข้าวกล้าเสียหายเหลือคณานับ
ผู้คนจึงอดอยากล้มตายลงเป็นอันมาก ที่เหลือก็นำศพเหล่านั้นไปทิ้งนอกเมืองเพราะเผาหรือฝังไม่ไหว
นอกเมืองจึงเหม็นคลุ้งด้วยซากศพ ฝูงนกกาและสุนัขก็มาลากกินศพเหล่านั้น แล้วลงกินน้ำในแม่น้ำ ทำให้
อหิวาตกโรคระบาดซ้ำอีก ผู้คนยิ่งล้มตายเป็นทวีคูณ พวกอมนุษย์และภูตผีปีศาจทั้งหลายก็พากันเข้าเมือง
ก่อความเดือดร้อนให้ชาวเมืองทั้งกลางวันกลางคืน
ชาวเมืองจึงพากันทูลให้เจ้าผู้ครองนคร คือเจ้าลิจฉวีทั้งหลายนิมนต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มาประทับที่เมืองเวสาลีบ้าง ภัยทั้งหลายจะสงบเอง เจ้าลิจฉวีทั้งหลายก็เห็นพ้องด้วย จึงนิมนต์พระสัมมา
สัมพุทธเจ้าเสด็จมาเมืองเวสาลี โดยผ่านทางพระเจ้าพิมพิสารกษัตริย์เมืองราชคฤห์ พระเจ้าพิมพิสารจึง
ทูลนิมนต์พระพุทธองค์ตามนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรับนิมนต์แล้วเสด็จไปเมืองเวสาลีพร้อมด้วย
พระภิกษุสงฆ์เป็นอันมาก โดยเสด็จทางเรือที่พระเจ้าพิมพิสาร และเจ้าลิจฉวีทั้งหลายถวายความสะดวก
ฝ่ายละครึ่งทาง เมื่อเรือเทียบท่าแล้ว พระพุทธองค์เสด็จด้วยพระบาทเปล่าเข้าแคว้นวัชชีต่อไป พอ
พระพุทธองค์และพระภิกษุสงฆ์เข้าเขตแคว้นวัชชีเท่านั้น ได้เกิดฝนตกลงมาห่าใหญ่ น้ำฝนได้ไหลพัดพาเอา
ซากศพ และสิ่งปฏิกูลทั้งหลายลงแม่น้ำคงคาจนหมด ถนนหนทางก็สะอาดสะอ้านขึ้นเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
และเมื่อเสด็จถึงประตูเมืองเวสาลี ทรงรับสั่งให้พระอานนท์เรียนเอาพระพุทธมนต์ชื่อ “รตนสูตร”
แล้วเดินสวดพระปริตรนั้นรอบกำแพงเมืองทุกด้าน พระอานนท์ก็ทำตามพุทธบัญชา ถือบาตรของ
พระพุทธองค์ที่บรรจุน้ำพระพุทธมนต์ไว้แล้ว เดินปะพรมน้ำพระพุทธมนต์พลาง สวดพระปริตร รัตนสูตร
จนรอบพระนคร บรรดาอมนุษย์และภูตผีทั้งหลายพอถูกน้ำพระพุทธมนต์เข้าก็พากันกลัว หนีไปสิ้น โรคภัย
ไข้เจ็บต่างๆ ก็พลอยหมดสิ้นไปด้วย เมื่อปะพรมน้ำพระพุทธมนต์แล้วพระอานนท์ก็กลับมาเฝ้าพระผู้มี
พระภาคเจ้าต่อไป เมืองเวสาลีก็ปลอดภัยจากความพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้น ชาวเมืองก็อยู่เย็นเป็นสุข ทำมา
หากินได้สะดวกเหมือนเดิม ด้วยประการฉะนี้ ดังนั้นจึงได้ถือปฏิบัติต่อกันมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ประเพณี
การปะพรมน้ำมนต์ก็ยังอยู่คู่กับชาวพุทธตลอดมา
6.2 การประเคนของแด่พระภิกษุสงฆ์
การประเคน หมายถึง การมอบให้ด้วยความเคารพ ใช้ปฏิบัติต่อพระภิกษุสงฆ์เท่านั้น มีวินัย
บัญญัติห้ามพระภิกษุสงฆ์รับ หรือหยิบสิ่งของมาขบฉันเอง โดยไม่มีผู้ประเคนให้ถูกต้องเสียก่อน เพื่อตัด
อรรถกถารตนสูตร, ขุททกนิกาย สุตตนิบาต, มก. เล่ม 47 หน้า 7
118 DOU วั ฒ น ธ ร ร ม ช า ว พุ ท ธ