การฉันบิณฑบาตและการรับประทานอาหารในพระพุทธศาสนา : หน้า 109/169

หมวดแห่งการฉันบิณฑบาต (การรับประทานอาหาร) เราจักฉันบิณฑบาตโดยเคารพ 5. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า การนำไปใช้ ด้วยท่าทีสงบ เพื่อรักษาศรัทธาของเจ้าภาพ ไม่ควรทำอาการรังเกียจอาหารที่ไม่ชอบ ควรรับประทาน การนำไปใช้ 7. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า การนำไปใช้ 8. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า การนำไปใช้ 9. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า การนำไปใช้ 10. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า การนำไปใช้ 6. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เมื่อฉันบิณฑบาต เราจักแลดูแต่ในบาตร ขณะรับประทานอาหารควรมีอาการสำรวม ไม่ควรมองคนโน้น คนนี้ หรือมองทั่วบริเวณ เราจักไม่ตักข้าวสุกให้แหว่งตรงกลาง (ฉันไปตามลำดับ) ตักอาหารไม่เลอะขอบจาน เราจักฉันแกงพอสมควรแก่ข้าวสุก (ไม่ฉันกับข้าวมากไป) ไม่ควรเลือกรับประทานอาหารเฉพาะที่ตนชอบ และตักกับข้าว มากเกินไป จนคนอื่นไม่ได้รับประทาน เราจักไม่ขยุ้มข้าวสุกแต่ยอดลงไป ขณะรับประทานอาหารควรตะล่อมและเกลี่ยข้าวในจานของ ตนเองให้เรียบร้อยตลอดเวลาไม่เลอะเทอะทั่วจาน เราจักไม่เอาข้าวสุกปิดแกงและกับข้าวด้วยหวังได้มาก ไม่ควรเอาข้าวปิดกับข้าว เพื่อหวังได้กับข้าวมากๆ 11. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราไม่เจ็บไข้จักไม่ขอแกงหรือข้าวสุกเพื่อประโยชน์แก่ตนมา ฉัน การนำไปใช้ ไม่ควรเลือกรับประทานอาหารอร่อยๆ หรือราคาแพงๆ เท่านั้น 12. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า การนำไปใช้ 13. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า การนำไปใช้ หรือร้องขออาหารที่ชอบใจจากเจ้าภาพ โดยขาดความเกรงใจ เราจักไม่มองดูบาตรของผู้อื่นด้วยคิดจะยกโทษ เป็นเหตุนำมาซึ่งการอิจฉา เราจักไม่ทำคำข้าวให้ใหญ่เกินไป ไม่ควรตักอาหารจนพูนช้อน จะทำให้ต้องอ้าปากกว้างเมื่อจะ รับประทานทำให้เคี้ยวไม่ละเอียด 100 DOU วั ฒ น ธ ร ร ม ช า ว พุ ท ธ ขณะรับประทานอาหารไม่ควรมองดูจานอาหารของผู้อื่น อาจ