การปันสุขและกำลังใจในชีวิตประจำวัน SB 202 วัฒนธรรมชาวพุทธ หน้า 155
หน้าที่ 155 / 169

สรุปเนื้อหา

การแบ่งปันให้กับผู้อื่นเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิต ประการแรกคือการปันกันใช้ เพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้นจะเกิดความอิจฉาริษยาได้ง่าย ซึ่งนี่เป็นคำพูดของหลวงวิจิตรวาทการที่บอกว่าไม่มีใครอยากให้เราเด่นเกินไป. สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้เราขาดกำลังใจคือคำพูดที่บาดใจ บ่อยครั้งคำพูดเพียงไม่กี่คำสามารถสร้างปัญหาหรือแก้ไขปัญหาก็ได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงเน้นให้เราฝึกกรองคำพูดก่อนที่จะพูด อีกทั้งการมีวิธีติคนที่เหมาะสมก็มีความสำคัญเพราะจะช่วยให้เกิดผลที่ดี. หากคำวิจารณ์ถูกเลือกในเวลาที่เหมาะสม คนมักจะยอมรับได้มากขึ้นและลดความเกลียดชังได้.

หัวข้อประเด็น

-การแบ่งปัน
-กำลังใจในชีวิต
-คำพูดที่มีผลกระทบ
-ความสัมพันธ์
-วิธีการติคนที่เหมาะสม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

หลายครั้งก็ควรแบ่งให้คนอื่นบ้าง ปันกันกินปันกันใช้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะอยู่ด้วยกันลำบาก มีคนอิจฉากันมากๆ อย่างแน่นอน เพราะจะเหมือนคำของหลวงวิจิตรวาทการที่ว่า ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน ประการที่ 2 ขาดกำลังใจ ทำงานไปๆ แล้วกำลังใจจะขาด อะไรทำให้กำลังใจขาด อะไรบั่นทอนกำลังใจเรามากที่สุดนั่นคือ คำพูด เป็นคำพูดประเภทบาดใจกัน แล้วอะไรที่ให้กำลังใจกันมากที่สุด ก็คำพูดเช่นกัน เป็นเรื่องที่แปลกอะไรจะ ทอนกำลังใจกันก็ไม่เกินคำพูด แล้วให้กำลังใจก็ไม่เกินคำพูด สามีภรรยาแต่งงานกันเมื่ออายุ 20 ปี อยู่ด้วยกันมาจนกระทั่งอายุ 60 ปีแล้ว มาหย่าร้างกัน เมื่อ อายุ 60 ปีก็มี ถามไปถามมาก็เรื่องคำพูด แล้วหย่ากันไปตั้งหลายปีมาคืนดีกันก็มี ก็เรื่องคำพูดเช่นกัน คำ พูดแม้ไม่มีตัวไม่มีตน แต่มีฤทธิ์ที่จะยกใจก็ได้ มีฤทธิ์ที่ทอนกำลังใจให้ตกต่ำได้เช่นกัน ตรงนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงฝากไว้ว่า ฝึกกรองคำพูดกันเสียก่อน เพราะคำพูดที่ไม่ได้กรอง สามารถบาดใจคนได้ และหากบาดแล้วจะเป็นแผลลึกทีเดียว หากเรากรองคำพูดแล้วจะสามารถยกใจได้ไม่มี กำลังใจจะไปทำงาน พูดดีๆ ไม่กี่คำ ไปทำงานได้ แม้พระภิกษุสงฆ์ที่กำลังจะลาสิกขาแล้ว อุปัชฌาย์พูดไม่กี่คำ บวชต่อจนเป็นสมภารได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเรื่องคำพูดนี่สำคัญมากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้คำว่า “ปิยวาจา” ส่วนมากจะแปลว่า วาจา ไพเราะ ถ้าแปลอย่างนี้ บางทีหลายๆ ท่านที่ทำงานในสนามบอกว่าไม่เชื่อ เพราะเวลาทำงานเร่งๆ รีบๆ มัวมาพูดหวานๆ บางทีคลื่นไส้เอาด้วย ในกรณีอย่างนี้ปิยวาจาที่พระองค์ทรงใช้ ทรงหมายถึง “พูดภาษา คนรักคนชอบกัน” แต่หากมีความจำเป็นจะตำหนิกัน ให้พยายามชมก่อนเท่าที่เขาจะให้เราชมได้แล้วค่อยว่า (ว่า คือชี้โทษ ด่า คือใช้คำหนักๆ กดเขาให้ต่ำลง) แล้วหากจะว่ากล่าวมีข้อแม้ว่าวันหนึ่งตำหนิสัก 2 เรื่องก็พอ ถ้าจะมีข้อผิดพลาดอะไรเพิ่มเติม หากไม่จำเป็นจริงๆ ให้ยกข้ามวันไปก่อน เพราะสภาพใจของคนเราเป็นอย่าง นี้ เพราะเหตุนี้ ตั้งแต่บรรพบุรุษท่านได้เตือนเอาไว้ว่า เวลาดุด่าว่ากล่าวใคร ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นน้อง จะเป็น เพื่อนร่วมงาน จะเป็นสามีภรรยาหรือบุตรก็ตาม หากจะต้องติใคร ท่านให้กฎเกณฑ์ไว้ ดังนี้ วิธีติคน 5 ประการ 1. เลือกจังหวะให้เหมาะสม คนเราขึ้นอยู่กับเวลาและอารมณ์ ถ้าจังหวะไม่เหมาะ อย่าว่าแต่ไปว่า อะไรเลย ไปขออะไรบางทียังไม่ได้ อารมณ์ดีลูกมาขออะไรให้หมด พ่อบ้านจะเอาอะไร ยกให้ หมด อารมณ์ไม่ดีขออะไรก็ไม่ให้ ลูกน้องบางคนหวังดีต่อเจ้านายมาก เห็นท่านกำลังจะพลาด จึงไปเตือน แต่ไม่ดูจังหวะ ไปเตือนต่อหน้าธารกำนัล เลยถูกไล่ออกก็มี 146 DOU วั ฒ น ธ ร ร ม ช า ว พุ ท ธ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More