ข้อความต้นฉบับในหน้า
6. การปูอาสนะสำหรับพระสงฆ์ ควรใช้เสื่อหรือพรมปูเสียชั้นหนึ่งก่อน นิยมใช้กัน 2 วิธี คือ
ยกพื้นอาสนะสงฆ์ให้สูงขึ้น โดยใช้เตียงหรือแคร่ม้ายาววางต่อกันให้พอจำนวนแก่สงฆ์ และอีกวิธีหนึ่ง
ปูลาดอาสนะบนพื้นธรรมดา อาสนะสงฆ์ชนิดยกพื้นนิยมใช้ผ้าขาวปูลาด จะมีผ้านิสีทนะ ปูอีกชั้นหนึ่งหรือ
ไม่ก็ได้โดยอาสน์สงฆ์ยกพื้นนี้มักจัดในสถานที่ที่ฝ่ายเจ้าภาพนั่งเก้าอี้กัน ส่วนอาสนะชนิดที่ปูลาดบนพื้นธรรมดา
จะใช้เสื่อหรือพรมผ้าที่สมควรก็สุดแท้แต่ที่จะหาได้
ข้อสำคัญควรระวัง อย่าให้อาสนะพระสงฆ์กับอาสนะของคฤหัสถ์ฝ่ายเจ้าภาพเป็นอันเดียวกัน
ควรปูลาดให้แยกจากกัน ถ้าจำเป็นแยกกันไม่ได้ เพราะปูเสื่อหรือพรมไว้เต็มห้อง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วสำหรับ
อาสนะสงฆ์ ควรปูทับด้วยเสื่อหรือพรมอีกชั้นหนึ่งจึงจะเหมาะสม โดยใช้ผ้าขาวหรือผ้านิสีทนะก็ได้ ปูเรียง
รูปเป็นระยะให้ห่างกันพอสมควร อย่าให้ชิดกันเกินไป มีหมอนอิงข้างหลังเรียงเท่าจำนวนที่นิมนต์มา
ในงานนั้นๆ
7. เครื่องรับรองพระภิกษุสงฆ์ ประกอบด้วย กระโถน ภาชนะน้ำเย็น วางไว้ทางด้านขวามือของ
พระภิกษุสงฆ์เป็นรายรูป ถ้าของมีจำกัดจะจัดวาง 2 รูป ต่อ 1 ที่ก็ได้ วางเรียงจากด้านในมาหาข้างนอก
ตามลำดับ คือกระโถนไว้ในที่สุด ถัดมาภาชนะน้ำเย็น ส่วนน้ำชาหรือเครื่องดื่ม เมื่อพระภิกษุสงฆ์เข้านั่ง
เรียบร้อยแล้ว ค่อยถวายก็ได้
8. ล้างเท้า - เช็ดเท้าพระภิกษุสงฆ์ เมื่อพระภิกษุสงฆ์มาถึงบ้าน ฝ่ายต้อนรับจะคอยล้างเท้าให้
ท่าน จะให้ท่านล้างเท้าเองดูไม่เหมาะ เพราะน้ำอาจมีสัตว์ปะปนอยู่ ซึ่งขัดกับพระวินัย และคอยเช็ดเท้าให้
ท่านด้วย
9. ประเคนเครื่องรับรองแด่พระภิกษุสงฆ์ เมื่อพระภิกษุสงฆ์เข้าประจำที่เรียบร้อยแล้ว จึงเข้า
ประเคนของรับรองที่เตรียมไว้แล้ว คือภาชนะน้ำเย็น ประเคนของที่อยด้านในก่อน ตามด้วยน้ำชาหรือ
น้ำหวานต่างๆ ถวายทีละรูปจนครบ
10. จุดเทียนธูปและเครื่องสักการะ เมื่อได้เวลาแล้วเจ้าภาพเริ่มต้นจุดเทียน ธูป ที่โต๊ะบูชาด้วย
ตัวเอง ไม่ควรให้คนอื่นจุดแทน ให้ถือว่าเราทำเพื่อสิริมงคลของผู้ทำของเจ้าของงานนั้นๆ และควรจุด
เทียนเล่มที่อยู่ทางซ้ายมือของเราก่อน แล้วจึงจุดเทียนเล่มขวามือ เทียนไม่ควรให้เล่มเล็กเกินไป เสร็จแล้ว
จุดธูป ธูปควรปักไว้ในกระถางธูป ให้ตั้งตรง ถ้าเป็นงานมงคลสมรสคู่บ่าวสาวจุดเทียนกันคนละเล่ม ธูปคนละ
3 ดอก ผู้หญิงให้นั่งทางซ้าย ผู้ชายนั่งทางขวา แล้วกราบลงพร้อมกัน 3 ครั้ง ประเคนด้ายสายสิญจน์แก่
พระเถระผู้เป็นประธานสงฆ์ในพิธี
11. อาราธนาศีล ถ้าเจ้าภาพสามารถอาราธนาศีลได้ด้วยตนเองยิ่งดี ถ้าอาสนะสงฆ์สูง ยืนอาราธนา
ก็ได้ ถ้าพระภิกษุสงฆ์นั่งกับพื้น ควรนั่งคุกเข่าประนมมืออาราธนา จบแล้วจึงตั้งใจรับศีลด้วยการเปล่ง
วาจาว่าตามไป การเปล่งวาจานี้ควรให้พระเถระผู้ให้ศีลได้ยินด้วย ไม่ใช่รับศีลในใจ เมื่อพระท่านให้ศีลจบ
พึงรับด้วยคำว่าว่า “อามะ ภันเต” หรือว่า “สาธุ ภันเต”
- ผ้านิสีทนะ คือผ้าสำหรับปูนั่ง, สำหรับรองนั่งของพระภิกษุสงฆ์
114 DOU วั ฒ น ธ ร ร ม ช า ว พุ ท ธ