ข้อความต้นฉบับในหน้า
ภรรยาสมัยนี้มักมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับสามีอยู่เรื่อยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ก็ให้ลองพิจารณา
ตรงนี้ว่า เราเตรียมข้าวปลาอาหารให้เขาดีอยู่หรือเปล่า มีเรื่องอะไรเคยจับเข่าคุยกันบ้างไหม ถึงคราว นัดพบ
ประชุมญาติฝ่ายเขา เราไปร่วมด้วยหรือเปล่า ถ้าเอาแต่ซื้อข้าวใส่ถุงพลาสติก ต่างคนต่างกินตาจ้องเป๋งอยู่
กับละครทีวี แล้วก็เห็นพระเอก นางเอกดีกว่าสามีเราภรรยาเรา ถึงวันขึ้นปีใหม่ วันสงกรานต์ ก็ปล่อยเขา
ไปเยี่ยมพ่อแม่ตามลำพังละก็ เตรียมสถานการณ์บ้านแตกได้แล้ว
ประโยชน์ของการกินอาหารพร้อมหน้ากันทุกวัน คือ มีอะไรจะได้พูดกันเสียไม่ต้องติดค้างอยู่ในใจ
มีอะไรจะแนะนำสั่งสอนกันก็ใช้เวลาว่างช่วงนี้เหมาะสมที่สุดเพราะท้องอิ่มอารมณ์ดียิ่งกว่านั้นยังเป็นโอกาสให้
ลูกๆ ได้ถ่ายทอดนิสัยที่ดีไปจากพ่อแม่โดยการเลียนแบบกิริยามารยาทในการกินอยู่ไปโดยอัตโนมัติ
ในสมัยโบราณเราถือกันว่าอย่างน้อยที่สุดใน 1 วัน พ่อแม่ลูกควรจะต้องมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา
กัน 1 มื้อ สำหรับมื้อเช้าอาจทำได้ยาก เพราะต่างคนต่างต้องรีบไปทำงาน หรือรีบไปเรียน ส่วนตอนกลาง
วันต่างก็กินกันที่โรงเรียนหรือในที่ทำงาน แต่สำหรับมื้อเย็นนั้นขอให้เป็นเวลานัดพร้อมหน้าพร้อมตากันให้ได้
เพราะถ้าพลาดจากเวลาอาหารเย็นแล้ว ต่างคนต่างก็มีเรื่องส่วนตัวจะต้องทำ บางคน จะทำการบ้าน บาง
คนจะดูทีวี ถ้าไม่มีเวลาอบรมพบปะทำความเข้าใจกัน ดีไม่ดีจะทะเลาะกันหน้าทีวี เพราะชอบไม่เหมือนกัน
บางบ้านแก้ปัญหาโดยซื้อทีวีแจกกันให้ดูให้ครบคนละเครื่อง ตกลงวันหนึ่งๆ เลยไม่ต้องได้คุยกัน
ต่างคนต่างไป ไม่มีความอบอุ่น บางคนบ่นว่า ลูกของตนดื้อมาก ทั้งที่พ่อแม่ก็ไม่ดื้อ ความจริงต้องการให้
ทุกคนทราบว่าลูกไม่ได้ผ่าเหล่า แต่ตัวพ่อแม่นั้นดื้อเงียบทั้งที่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างดีๆ ให้ลูกดูก็ดื้อไม่ทำ
ลูกก็เลยทำดื้อๆ ตามพ่อตามแม่
สำหรับชีวิตครอบครัวในปัจจุบันที่ต้องเร่งรีบปฏิบัติภารกิจต่างๆ ก็อาจดัดแปลงให้มีการประชุม
กันเนืองนิตย์ได้ตามความเหมาะสม คือ ไม่จำเป็นต้องตั้งโต๊ะประชุมให้เป็นเรื่องเป็นราวนัก แต่อาจจัดให้พ่อแม่
ลูกได้สวดมนต์พร้อมๆ กันก่อนนอน หรือในเวลาเช้าครอบครัวใดมีรถยนต์ใช้ก็ควรจะนั่งรถยนต์ออกจากบ้านไป
พร้อมกัน จะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในรถได้ อย่ามองข้ามสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ไป
2. พฤติกรรมของคนในครอบครัวไม่คงเส้นคงวา คือ มีความบกพร่องใน อปริหานิยธรรมข้อ 3
ที่กล่าวว่าไม่บัญญัติสิ่งที่ท่านไม่ได้บัญญัติ และไม่ถอนสิ่งที่บัญญัติไว้ดีแล้วให้ประพฤติอยู่ในธรรมะที่บรรพบุรุษ
ได้บัญญัติไว้ดีแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือ พ่อแม่ซึ่งเป็นผู้นำของครอบครัวไม่ควรทำตัวเป็นคนผีเข้าผีออก คือ
ทำอะไรตามอารมณ์ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ โดยไม่มีเหตุผล
เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะครอบครัวที่อบรมลูกด้วยเหตุด้วยผล จะทำให้เด็กเป็นคนดีมีความคิด
สร้างสรรค์ และมีความรับผิดชอบมาตั้งแต่เล็กๆ เมื่อลูกทำผิดก็ต้องว่ากล่าวสั่งสอนลงโทษให้สมควรแก่ความ
ผิดนั้นๆ ไม่ใช่วันนี้อารมณ์ดี ลูกทำผิดหนักหนาอย่างไรก็ไม่ว่า แต่เมื่อถึงคราวอารมณ์ไม่ดี ทั้งที่ ความผิด
น้อยกว่าเมื่อวันก่อนกลับตีเสียหลังลาย
156 DOU วั ฒ น ธ ร ร ม ช า ว พุ ท ธ