ความหมายของศีลและมุสาในสังคม ศีล เป็นที่ตั้งแห่งความดีงาม หน้า 174
หน้าที่ 174 / 205

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้อธิบายเกี่ยวกับศีลและมุสา โดยเสนอวิธีการพูดที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน พร้อมตัวอย่าง เช่น การพูดเล่นสำนวนและการเสริมความ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงหลักการปฏิบัติตามสัญญา และอธิบายเรื่องโวหารที่อาจไม่มีความจริงสัมพันธ์กับการใช้ภาษาที่ดูเคารพ แต่ละข้อสอนให้ระมัดระวังในการสื่อสารและการรักษาศีลในชีวิตประจำวัน

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของศีล
-ประเภทของมุสา
-การพูดที่ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน
-ความสำคัญของการรักษาสัญญา
-การใช้ถ้อยคำในสังคม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

174 ศีล....เป็นที่ตั้งแห่งความดีงาม เข้าใจผิด ทำเลศ ได้แก่ การพูดเล่นสำนวน คลุมเครือ ให้คนฟัง เสริมความ ได้แก่ การเสริมความให้มากกว่าที่เป็นจริง อ่าความ ได้แก่ การตัดข้อความที่ไม่ประสงค์จะให้รู้ออกเสีย เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไป ข. อนุโลมมุสา คือ การกล่าวเรื่องไม่จริง แต่ผู้พูดมิได้มุ่งหวังจะ ให้ผู้ฟังหลงเชื่อ ได้แก่ เสียดแทง เป็นการว่าให้ผู้อื่นเจ็บใจ เช่นการประชด การด่า สับปลับ เป็นการพูดปด ด้วยความคะนองปาก ค. ปฏิสสวะ คือ การรับคำผู้อื่น ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ แต่ภายหลัง เกิดกลับใจ ไม่ทำตามที่รับนั้น ได้แก่ ผิดสัญญา คือ การที่สองฝ่ายทำสัญญาต่อกัน แต่ภาย หลังฝ่ายหนึ่งได้บิดพลิ้ว ไม่ทำตามที่สัญญาไว้ เสียสัตย์ คือ การที่ฝ่ายหนึ่งได้ให้คำสัตย์ไว้ แต่ภายหลัง ได้บิดพลิ้วไม่ทำตามนั้น คืนคำ คือ การรับคำว่าจะทำสิ่งนั้นๆ โดยไม่มีข้อแม้ แต่ ภายหลังหาได้ทำตามนั้นไม่ หมายเหตุ ยังมีกรณีของ ยถาสัญญา ซึ่งถือเป็นมุสาวาทที่ไม่มี โทษ ได้แก่ โวหาร ได้แก่ ถ้อยคำที่ใช้กันตามธรรมเนียม เช่น การเขียน จดหมายที่แสดงความอ่อนน้อมด้วยการลงท้ายว่า “ด้วยความเคารพ อย่างสูง” ทั้งที่ความเป็นจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น นวนิยาย ได้แก่ การแต่งเรื่องเปรียบเทียบ หรือจินตกวีต่างๆ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More