ความหมายและประโยชน์ของศีล ศีล เป็นที่ตั้งแห่งความดีงาม หน้า 15
หน้าที่ 15 / 205

สรุปเนื้อหา

พระมหาสุวิทย์ วิชเชสโก กล่าวถึงความหมายของคำว่า 'ศีล' ซึ่งมาจากคำว่า สีตะละ และ สิวะ ที่มีความหมายเกี่ยวกับความเย็นสบายและความบริสุทธิ์ การรักษาศีลทำให้ผู้รักษามีชีวิตที่ปลอดโปร่งและปลอดภัย เมื่อคนเราอยู่ในสภาพที่สงบ หลีกเลี่ยงการกระทำที่ไม่ดี เช่น การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ และการประพฤติผิดในกาม ช่วยให้เรามีชีวิตที่สดใส โดยไม่ต้องกังวลกับการกระทำที่ผิด การเข้าใจและปฏิบัติตามศีลจึงถือเป็นการสร้างคุณธรรมที่สำคัญสำหรับการพัฒนาตนเองและสังคม โดยรวมแล้ว ศีลทำให้เข้าถึงความเป็นยอดคนและความสมบูรณ์แบบในชีวิต.

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของศีล
-คุณสมบัติของผู้รักษาศีล
-ความสำคัญของศีลในชีวิตประจำวัน
-การหลีกเลี่ยงการกระทำที่ไม่ดี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

15 พระมหาสุวิทย์ วิชเชสโก ป.ธ.๙ ศีล มาจากคำว่า สีตะละ ซึ่งแปลว่า เย็น เพราะผู้ที่ รักษาศีล จะมีความเย็นกาย เย็นใจ ดุจดั่งบุคคลผู้อาบนํ้า ชำระกายหมดจดดีแล้ว นั่งพักอยู่ ณ ร่มไม้ใหญ่ ความสงบ เยือกเย็นนี้ แม้ผู้ที่อยู่ใกล้ก็จะรู้สึกปลอดภัย เย็นใจไปด้วย ศีล มาจากคำว่า สิวะ ซึ่งแปลว่า ปลอดโปร่ง เพราะ ผู้ที่รักษาศีลย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะนึกถึงการกระทำของ ตนเรื่องใด ก็ไม่มีสิ่งใดเป็นโทษ ไม่มีสิ่งใดเดือดร้อนกังวลใจ จึงมีชีวิตที่ปลอดโปร่งโล่งใจ และปลอดจากเวรภัยทั้งหลาย ดังนั้น ศีล จึงเป็นคุณธรรม ที่ทำให้เข้าถึงความเป็น ยอดคน เป็นบุคคลผู้สมบูรณ์แบบ มีความเป็นปกติ เป็น ผู้ที่เย็นกายเย็นใจ และมีชีวิตที่ปลอดโปร่ง ปลอดภัยอยู่ เสมอ นี่คือความหมายตามนัยแห่งคำศัพท์ อันเป็นที่มาของ คำว่า ศีล ส่วนความหมาย ที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ปฏิสัมภิทา มรรค” นั้น พระสารีบุตรได้กล่าวว่า “ศีล คือ เจตนา ความตั้งใจ ที่จะงดเว้นจากกายทุจริต ๓ (ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม) และวจี- พระไตรปิฎก บาลีสยามรัฐ เล่ม ๓๑ ข้อ ๔๙ หน้า ๖๔
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More