อธิบายบาลีไวยากรณ์: นามและอัพยยศัพท์ อธิบายบาลีไวยากรณ์ นามและอัพพยศัพท์ หน้า 11
หน้าที่ 11 / 118

สรุปเนื้อหา

บทความนี้อธิบายถึงบทบาทของนามในบาลีไวยากรณ์ โดยแบ่งนามออกเป็นลิงค์ต่างๆ เช่น ปุ๊ลิงค์ อิตถีลิงค์ และนปุสกลิงค์ พร้อมกับการจัดประเภทตามกำเนิดและสมมติ ด้วยการนำเสนอตัวอย่างที่เกี่ยวข้อง เช่น การจำแนกคำที่มีเพศชายและหญิง โดยจะอธิบายความหมายของแต่ละลิงค์และวิธีการที่รวมถึงนาม นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงคำไทยที่มีความเก่าแก่และความเปลี่ยนแปลงในบริบทของภาษา.

หัวข้อประเด็น

- การแบ่งประเภทนาม
- ความหมายของลิงค์
- ปุ๊ลิงค์ อิตถีลิงค์ และนปุสกลิงค์
- การจำแนกคำตามเพศ
- บทบาลีซึ่งเป็นที่มา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อธิบายบาลีไวยากรณ์ นามและอัพยยศัพท์ - หน้าที่ โดยตรงคือนามนาม โดยอ้อมคือคุณนามและสัพพนาม และต้อง ประกอบให้มีลิงค์เป็นอย่างเดียวกันนามนาม ในภาษามคธท่านแบ่ง คำพูดเป็น ๓ ลิงค์ คือ ปุ๊ลิงค์ เครื่องหมายที่ไม่ใช่เพศชายและเพศหญิง ถึงจะจัดไว้เป็น ๓ ก็จริง แต่ถึงดังนั้น เมื่อว่าโดยต้นเค้าแล้ว ก็มี က เป็น ๒ คือ จัดตามกำเนิดอย่าง ๑ จัดตามสมมติอย่าง ๑. จัดตาม กำเนิดนั้น ได้แก่จัดตามธรรมชาติของภาวะเช่น ปุริโส ชาย จัดเป็น ลิงค์ อิตถี หญิง จัดเป็นอิตถีลิงค์ กุล สกุล จัดเป็นนปุสกลิงค์ ที่ จัดตามสมมตินั้นคือจัดนอกธรรมชาติของสิ่งนั้นโดยความนิยมอย่าง ๑ งด. โดยการันต์คือสระที่สุดศัพท์ ซึ่งขัดกับธรรมชาติอันเป็นภาวะของตน อย่าง ๑ เช่น ทาโร เมีย คำว่าเมีย แท้จริงเป็นอิตถีลิงค์ แต่สมมติ ให้เป็นปุ๊ลิงค์ ภูมิ แผ่นดิน ตามธรรมชาติต้องเป็นนปุสกลิงค์ เพราะไม่ ใช่เพศชายหรือหญิง แต่สมมติให้เป็นอิตถีลิงค์ แม้ศัพท์อื่น ๆ ซึ่งมี นัยเหมือนกัน พึงเข้าใจตามที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น นามนามเป็นลิงค์ เดียว คือจะเป็นลิงค์ใดลิงค์หนึ่งในลิงค์ทั้ง ๓ เป็นได้เฉพาะลิงค์เดียว ก็มี เป็น ๒ ลิงค์ คือจะเป็นปุ๊ลิงค์หรือนปุสกลิงค์ แต่จะเป็นอิตถีลิงค์ไม่ ได้ก็มี มูลศัพท์อันเดียวมีรูปอย่างเดียวเปลี่ยนแต่สระที่สุดแห่งศัพท์เป็น ได้ ๒ ลิงค์ คือจะเป็นปุ๊ลิงค์หรืออิตถีลิงค์ก็ได้ แต่จะเป็นนปุสกลิงค์ไม่ ได้ (อุทาหรณ์ตามแบบ) ส่วนคุณนามและสัพพนามเป็นได้ทั้ง ๓ อนึ่ง มีบทบาลีซึ่งเป็นคำของพระฎีกาจารย์ ในมังคลัตทีปนี ภาค ๒ หน้า ๔๒๕ ว่า ทีฆรชชนา พนธ์ สกุณ วิย รชชูหตุโก ลิงค์. 10
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More