การศึกษาไวยากรณ์บาลี: นามและอัพยยศัพท์ อธิบายบาลีไวยากรณ์ นามและอัพพยศัพท์ หน้า 13
หน้าที่ 13 / 118

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงการศึกษาไวยากรณ์บาลี โดยเฉพาะเรื่องนามและอัพยยศัพท์ ซึ่งจัดแบ่งตามบทวิเสสนะและบทกิริยาอาขยาต หรือกิริยากิตก์ ที่มีบทบาทในการสื่อสารในประโยค วจนะมีหลากหลายประเภท รวมถึงทวิวจนะและเทววจนะ โดยทวิวจนะหมายถึงสิ่งที่มีจำนวน ๒ ส่วนเทววจนะเป็นศัพท์ที่สามารถแสดงได้ทั้งเอกวจนะและพหุวจนะ โดยมีอัตราส่วนที่ไม่น้อยกว่า ๒ วจนะ โครงสร้างเหล่านี้ช่วยให้นักเรียนสามารถทำความเข้าใจในแนวคิดที่ซับซ้อนนี้ได้อย่างชัดเจน.

หัวข้อประเด็น

-ไวยากรณ์บาลี
-ประเภทของวจนะ
-บทวิเสสนะ
-กิริยาอาขยาต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อธิบายบาลีไวยากรณ์ นามและอัพยยศัพท์ - หน้าที่ 1 ที่บทวิเสสนะและบทกิริยาอาขยาต หรือกิริยากิตก์ในประโยคนั้น ๆ เช่น โส เสฏฺฐี, เต เสฏฺฐี, เสฏฐี คจฺฉติ, เสฏฐี คอนติ เสฏฐี คโต, เสฏฐี คตา เป็นต้น ก็อาจทราบได้ว่าเป็นวจนะอะไร เพราะบทวิเสสนะก็ดี บทกิริยาอาขยาตหรือบทกิริยากิตก์ก็ดี ย่อมเป็น เหมือนเครื่องส่องวจนะให้ชัดเจน ผู้ศึกษาจึงกำหนดให้ดี ยังมีวจนะอีก ๒ ประเภท คือทวิวจนะและเทววจนะ ในวจนะ ทั้ง ๒ นี้ มีความหมายต่างกัน ทวิวจนะ หมายความว่าสิ่งของหรือ บุคคลที่พูดถึงนั้นมีเพียง ๒ ไม่ถึง ๓ แต่ไม่ใช่เพียง ๑. คำว่าเทววจนะ หมายความว่าศัพท์ที่จะแจกด้วยวิภัตติเป็นได้ ๒ วจนะคือทั้งเอกวจนะ และพหุวจนะ เพราะบางศัพท์เป็นได้แต่เอกวจนะ เป็นพหุวจนะไม่ได้ เช่น อตฺต ศัพท์ เป็นตัวอย่าง บางศัพท์เป็นได้แสดงไว้แล้วนั้น เช่น ปญฺจ เป็นต้น เช่นเดียวกับคำที่ว่า ทุวิลิงค์เป็นได้ ๒ ลิงค์ ไตรลิงค์เป็น ได้ ๓ ลิงค์. วจนะนั้นมีลักษณะอาการคบล้ายสังขยา เพราะต่างก็นับจำแนกมี ความหมายในวัตถุสิ่งของหรือบุคคลให้รู้จำนนว่ามีเท่าไร แต่วจนะที่ เป็นพหุวจนะมีความหมายกว้างกว่าสังขยา เพราะตั้งแต่ ๒ ขึ้นไปเป็น พหุวจนะทั้งนั้น มิได้จำกัดจำนวนเท่าไร ส่วนสังขยาแม้จะมาก สักเท่าไร ก็มีกำหนดจำนวนว่ามีเท่านั้นเท่านี้ รวมความว่าพหุวจนะมี การนับโดยมิได้มีขอบเขตว่าเท่าไร สังขยามีขอบเขตว่ามีเท่านั้นเท่านี้ และวจนะนี้ที่ใช้ในนามศัพท์เมื่อประกอบกับศัพท์แล้วเป็นเครื่องหมาย 12
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More