ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อธิบายบาลีไวยากรณ์ นามและอัพยยศัพท์ - หน้าที่
ปุริโส เทสนฺตร์ ตณฺหารชุชุมา พนธ์ สตฺตสนฺตานํ อภิสงฺขาโณ
ภวนฺตร์ เสิ อาตายาติ ภูวเนตติ อภิสังขาร ย่อมนำสันดานแห่งสัตว์
ที่ตนผูกไว้ด้วยเชือกคือตัณหาไปสู่ภพอื่นด้วยตัณหานั้น เหมือนบุรุษ
มีเชือกในมือ นำนกที่ตนผูกแล้วด้วยเชือยาวไปสู่ประเทศอื่น เหตุนั้น
ตัณหานั่นจึงชื่อว่าภูวเนตติ จึงน่าจะสันนิษฐานว่าศัพท์ที่เป็นลิงค์โดย
กำเนิดจะไม่สมมติให้เป็นลิงค์อื่นก็ได้ คือคงไว้ตามภาวะเดิม คำว่า รชุชุ
แท้จริงก็เป็นนปุสกลิงค์โดยกำเนิด แต่ท่านสมมติให้เป็นอิตถีลิงค์ ส่วน
ในอุทาหรณ์ที่ยกมานั้นส่อให้เห็นว่าหาเป็นไปตามสมมติไม่ คือเป็น
รชชุนา แจกตามแบบ นปุ๊, ยุกติอย่างไรขอนักบาลีพิจารณาดูเถิด
วจนะ
สิ่งทั้งปวงที่ผู้พูดกล่าวถึงมากบ้างน้อยบ้างเป็นธรรมดา เพื่อจะให้
ผู้ฟังเข้าใจเนื้อความและจำนวนมากน้อย ท่าจึงบัญญัติวจนะไว้โดยทั่ว
ไปเป็น ๒ เว้นแต่พวก ภควนฺตุ ศัพท์ แบ่งเป็น ๓ วจนะ ดังกล่าว
ข้างหน้า คำพูดที่มุ่งหมายเอาของสิ่งเดียวหรือบุคคลผู้เดียว เรียกเอก
วจนะ ถ้ามุ่งหมายตรงกันข้ามคือหมายเอาของหลายสิ่งหรือบุคคลหลาย
คนตั้งแต่ ๒ ขึ้นไปเรียกว่าพหุวจนะ เช่น ปุริโส ชายคนเดียว เป็น
เอกวจนะ ปุริสา ชายหลายคน เป็นพหุวจนะ.
การกำหนดรู้เอกวจนะและพหุวจนะนี้ ท่านให้กำหนดที่สุดของ
ศัพท์ เพราะที่สุดศัพท์นั้นจะบอกให้รู้ว่าเป็นวจนะอะไร แต่มีศัพท์
ที่ทำให้กำหนดยาก เพราะเอกวจนะกับพหุวจนะมีรูปเหมือนกัน เช่น
เสฏฐี อาจเป็นได้ ๒ วจนะ แต่มีสังเกตเพื่อให้รู้ได้ คือให้กำหนด
11