ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อธิบายบาลีไวายากรณ์ นามกิณี และกริยากิณี - หน้า 12
คำบรรยาย
สภานนี้เป็นชื่อของสิ่งที่ถูกทำ คือสิ่งใดถูกทำ ก็เป็นชื่อของสิ่งนั้น กล่าวอย่างง่ายก็ย่อเป็นชื่อของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มีผู้ทำขึ้น ในสภานี้กล่าวถึงสิ่งที่สำเร็จขึ้น โดยอาศัย 2 อย่างคือ ตามธรรมชาติ อย่างง์ บุคคลทำขึ้นอย่าง 1 ที่สำเร็จตามธรรมชาตินั้น คือใครเป็นผู้ทำขึ้น เช่น อ. ว่า ปิยะ (เป็นที่รัก) ก็หมายถึงว่าใครคนใดคนหนึ่งถูกอคตหนึ่งรัก เช่น บุตรธิดากุมารคามีดรัก หรือมรดก บิดากฎบุตรธิดาก็เชื่อว่าเป็นที่รักของมรดก หรือมรดกิดฺ ได้ชื่อว่าเป็นที่รักของมรดกิต. รโส (วิสัยนี้เป็นที่มิอธิ) ก็เป็นเดียวกัน วิสัยนี้นี้หมายถึงอารมณ์. คำว่า ปิยะ เป็น ปิยะ ทั้ง ๆ ลง อ คำอธิ แยกออออกตันวิเคราะห์ว่า ปิยะ เป็น
ปิยะ ธาตุ ลง อ ปิยะ แยกอออกตันวิเคราะห์ว่า ปิยะ เป็น
เหตุนี้น (มุตรนี้) ชื่อว่า ปิยะ เป็นที่รักของ (มุตา).
อีก อ. หนึ่ง คือ รโส เป็นรส ธาตุ ลง อ ปัจฉ ไล้ธ. ว่า
(ชโน) รสติ อนุตติ รโส วิสโย.(ชนะ) ย่อมินติ ซึ่งวิสัยนั้น
เหตุนี้น (วิสัยนี้) ชื่อว่า รโส เป็นที่ยินดี (ของชน). ทั้ง 2 อ. นี้
เป็นกตัณรูป กัมมาสะนะ คือ ตัวสาระเป็นธรรม ส่วนรูปตั้งวิเคราะห์
เป็นกตัณดาวก ท่านบัญญัติให้แปลว่า "เป็นที่-"
ส่วนกรรมที่สำเร็จขึ้น โดยอธิบายบุคคลนั้น เช่น อุ ว่า กิจจิ
(กรรมอันเขาพึงทำ), ทาน (สิ่งของอันเขาพึงให้), คำว่า กิจจิ เป็น