อธิบายบาลีไวายากรณ์ นามกิณี และกริยากิณี อธิบายบาลีไวยากรณ์ นามกิตก์ และกิริยากิตก์ หน้า 13
หน้าที่ 13 / 121

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เน้นการอธิบายหลักการและการใช้บาลีในด้านของนามกิณีและกริยากิณี โดยกล่าวถึงความหมายของคำต่าง ๆ ที่ใช้ในภาษาบาลี เช่น คำว่า ปิยะ ที่หมายถึง 'ที่รัก' พร้อมกับการวิเคราะห์คำและวิธีการทำงานของคำในภาษา เนื้อหายังมีการกล่าวถึงกรรมที่สำเร็จ จากการกระทำที่มีผู้ทำและการเข้าใจอารมณ์ของคำ เช่น รโส ที่หมายถึง 'ที่ยินดี'. สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ dmc.tv.

หัวข้อประเด็น

-หลักการนามกิณี
-การวิเคราะห์กริยากิณี
-ความหมายของคำบาลี
-อารมณ์ของคำกริยา
-การทำงานของคำ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อธิบายบาลีไวายากรณ์ นามกิณี และกริยากิณี - หน้า 12 คำบรรยาย สภานนี้เป็นชื่อของสิ่งที่ถูกทำ คือสิ่งใดถูกทำ ก็เป็นชื่อของสิ่งนั้น กล่าวอย่างง่ายก็ย่อเป็นชื่อของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มีผู้ทำขึ้น ในสภานี้กล่าวถึงสิ่งที่สำเร็จขึ้น โดยอาศัย 2 อย่างคือ ตามธรรมชาติ อย่างง์ บุคคลทำขึ้นอย่าง 1 ที่สำเร็จตามธรรมชาตินั้น คือใครเป็นผู้ทำขึ้น เช่น อ. ว่า ปิยะ (เป็นที่รัก) ก็หมายถึงว่าใครคนใดคนหนึ่งถูกอคตหนึ่งรัก เช่น บุตรธิดากุมารคามีดรัก หรือมรดก บิดากฎบุตรธิดาก็เชื่อว่าเป็นที่รักของมรดก หรือมรดกิดฺ ได้ชื่อว่าเป็นที่รักของมรดกิต. รโส (วิสัยนี้เป็นที่มิอธิ) ก็เป็นเดียวกัน วิสัยนี้นี้หมายถึงอารมณ์. คำว่า ปิยะ เป็น ปิยะ ทั้ง ๆ ลง อ คำอธิ แยกออออกตันวิเคราะห์ว่า ปิยะ เป็น ปิยะ ธาตุ ลง อ ปิยะ แยกอออกตันวิเคราะห์ว่า ปิยะ เป็น เหตุนี้น (มุตรนี้) ชื่อว่า ปิยะ เป็นที่รักของ (มุตา). อีก อ. หนึ่ง คือ รโส เป็นรส ธาตุ ลง อ ปัจฉ ไล้ธ. ว่า (ชโน) รสติ อนุตติ รโส วิสโย.(ชนะ) ย่อมินติ ซึ่งวิสัยนั้น เหตุนี้น (วิสัยนี้) ชื่อว่า รโส เป็นที่ยินดี (ของชน). ทั้ง 2 อ. นี้ เป็นกตัณรูป กัมมาสะนะ คือ ตัวสาระเป็นธรรม ส่วนรูปตั้งวิเคราะห์ เป็นกตัณดาวก ท่านบัญญัติให้แปลว่า "เป็นที่-" ส่วนกรรมที่สำเร็จขึ้น โดยอธิบายบุคคลนั้น เช่น อุ ว่า กิจจิ (กรรมอันเขาพึงทำ), ทาน (สิ่งของอันเขาพึงให้), คำว่า กิจจิ เป็น
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More