อธิบายบาลีไวยากรณ์: นามกิริยา และกริยากิริยา อธิบายบาลีไวยากรณ์ นามกิตก์ และกิริยากิตก์ หน้า 67
หน้าที่ 67 / 121

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการวิเคราะห์และอธิบายการใช้ไวยากรณ์บาลีในรูปแบบของนามกิริยาและกริยากิริยา โดยเน้นการเปลี่ยนแปลงรูปรวมถึงการใช้ปัจจัยในการสร้างคำ เพื่อให้ผู้ศึกษาเข้าใจการจัดเรียงและความหมายที่เกิดขึ้นในภาษาบาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการลงอักษรและรูปคำต่าง ๆ สำหรับผู้มีความสนใจในภาษาบาลี ซึ่งเนื้อหานี้จัดให้มีความสัมพันธ์กับการศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับหลักการทางภาษาศาสตร์.

หัวข้อประเด็น

-ไวยากรณ์บาลี
-นามกิริยา
-กริยากิริยา
-การใช้ปัจจัย
-การเปลี่ยนแปลงรูปคำ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อธิบายบาลีไวยากรณ์ นามกิริยา และกริยากิริยา - หน้า 66 อิ อาคมหลังชฏฐ์ อันนี้ ชฏฐ์สำเร็จรูปมาจากอายาดแล้ว เมื่อนางปัจจัยนี้ คงอยู่ตามรูปคำ แล้วให้ ลง อิ อามา เช่น อ. ลิมปัญี เป็น อิชฏฐ์ ลงนึกคิดอามแล้ว แปลเป็น มุ ตามหมวด รุ่งรัฏ หมู่ ตู่ ปัจจัย ต้องลง อิ อาคมหลังชฏฐ์ วิญญุตู เป็น วิญญูหนู มุ จ รัฏ ลง ย ปัจจัยหมวด กิ วิจ ฏ ตู่ ปัจจัย ลง อิ อามา ที่ นาปัจจัย 2. ชาตุตัเดียวลงไว้ตามเดิมบ้าง พฤกษิตน์ธรรถบ้าง ที่ คงไว้ตามเดิม หมายเอาเฉพาะชาตุที่เป็นที่นะ คือลเป็นระยะรออยู่แล้ว เมื่อองค์ ตู่ ปัจจัย ให้ลงไว้ เช่น อ. ถัต เป็น อา ชฏ ฏ ในความรู้ ปาตฺ เป็น ปา ชฏ ฏ ในความดำ พฤกษ์ที่ตันชาตฺ คือ ให้พฤติ ตันชฏ ฎ ได้เฉพาะที่เป็นระยะเท่านั้น เช่น อุ เท ฏ เป็น ชิ ฏ ฎ ในความชนะ พฤกษ์ อิ เป็น เอง โท ฏุ เป็น หู ฏ ฏ ฏ ในความ มี-เป็น พฤกษ์ อุ เป็น โอ แล้วบา อิ เป็น สี ฏ ฏ ฏ ในความนอน พฤกษ์ อิ เป็น เอง แล้วเอา เป็น อย. อันนี้ ชาตุตัวเดียวกันนั้นแหละ เมื่เปลี่ยนแปลงไปเป็นสองตัว แล้ว ก็เป็นชาตุตองตัวได้ และให้นำหลักในข้อ 1 มาใช้ คือ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More