ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อธิบายบาลีไวยากรณ์ นามคติ และกิริยากรณ์ - หน้า 13
กร ศ๎ู ลง เรือง ปัจจัย แยกูปออกตั้ง วี ว่า กาถพุน-ติ
[กาถพุ+อธิ] กิจจิ ( ยกมูม กรรมใด )(เตน อันเขา) พึงทำ
เหตุนี้น (ดำ กุมุ กรรมมัน) ชื่อว่า กิจจิ (อันเขาทำ)
อีก อุ. หนึ่งว่า ท่าน เป็น กรรมู ลง สุ ปัจจัย แล้วแปลงเป็น อน แยกูปออกตั้ง วี. ว่ากาถพุน-ดี ท่าน. (ย งวตฺ สิ่งของ
ใด) (เตน อันเขา) พึงให้ เหตุนี้ (ดำ วตฺ สิ่งของนั่น) ชื่อว่า
ท่าน (อันเขาพึงให้) ทั้ง ๒ อุ. นี้ เป็นกัมมุรูป กัมมาสรณะ ลงอเน
คืออุปวิเคราะห์เป็นกัมมมาจาก และสารณะเป็นกัมมาสรณะ ท่าน
บัญญัติให้แปลว่า "อันเขา-"
ภาวาสนะ
สารณะนี้ กล่าวถึงอาการคือความมีความเป็นเท่านั้น ไม่กล่าว
ถึง กิฏตา (ผู้ทำ) หรือ กัมม (ผู้ถูกทำ) ก็อาราธน่าล้านั้นก็
เกิดมาจากความทำของนามนามมันเอง กล่าวอย่างง่าย ก็คือ กล่าวถึง
เฉพาะกิจอารมณ์มีการ ยืน เดิน นั่ง นอน เป็นต้น ที่ปรากฏมา
จากนามนาม ไม่กล่าวผู้ทำ หรือผู้ถูกทำ เช่น อุ. ว่า คาม ฑ (ความ
ไป), ธาน (ความยืน, นิสมฺชา (ความนั่ง). สยน (ความนอน)
คำว่า คามนี เป็น คมฺ ธาดุ ลง ยู ปัจจัย แล้วแปลเป็น อน แยก
อกติ ว่า คจฉิต-ดี คมฺ (ตน อันเขา) ย่อมไป เหตุนี้น
ชื่อว่า ความไป.
ธาน เป็น ธา ธาตุ ลง ยู ปัจจัย แล้วแปลเป็น อน แยก
คือว่า คาม ฑ เป็น คมฺ ธาดุ ลง ยู ปัจจัย แล้วแปลเป็น อน แยก
ออกตั้ง ว่า คจฉิต-ดี คมฺ (ตน อันเขา) ย่อมไป เหตุนัน้
ชื่อว่า ความไป.
ธาน เป็น ธา ธาตุ ลง ยู ปัจจัย แล้วแปลเป็น อน แยก