ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อธิบายบาสไวบรรณ์ นามกิตติ และกริยากิตติ - หน้าที่ 21
เป็นสถานที่เล่าเรียนวิชา ความรู้ หรือโรงงานเป็นสถานที่ทำวเป็นต้น
กล่าวสั้นก็คือ ยกสถานที่นั้นขึ้นกว่า เช่น อู่ว่าชาน (ที่ตั้ง, ที่อ่อน),
อาสัน (ที่นั่ง), สยน (ที่นอน).
ชาน มูลเดิมมากจาก ชาตุ ในความยึด ลง ยู ปีวิจัย แล้ว
แปลงเป็น อน แยกรูปออกดัง ว่า ตฤฏฐิติ เดอกา-ดี ชาน (ชโน
ข่อมยืน ในก่นนั้น เหตุนัน (เดอกาน ที่นอน) ชื่อว่า ชาน
(เป็นที่ยืนแห่งชล).
อาสัน มูลเดิมมากจาก อาส ฤฐาในความนั่ง ลง ยู ปีวิจัย แล้ว
แปลงเป็น อน แยกรูปออกดัง ว่า อาสต์ เดฎฏตติ-อาสัน
(ชโน ชน) ย่อมยืน ในก่นนัน เหตุนัน (เดอกาน ที่นอน) ชื่อว่า
อาสัน (เป็นที่นั่งแห่งชล).
สยน มูลเดิมมากจาก สี ฤฐาในความนอน แปลงอีก ที่ สี เป็น
เอ แล้วเอาเป็น อย ลง ยู ปีวิจัย แล้วแปลงเป็น อน แยก รูปออก
ดัง ว่า สยน เดฏฎิต เดยน (ชโน ชน) ย่อมมน ในนั้น
เหตุนัน (เดอกาน ที่นอน) ชื่อว่า สยน (เป็นที่นอนแห่งชล).
รูปวิเคราะห์เหล่านี้เป็นกฎรูป เพราะใช้ก็ยาเป็นกฎดูจาก
ถ้าต้องการให้เป็นกฎรูป ก็ต้องแปลงก็ยาให้เป็นกฎมาวก แต่ศัพท์ว่า
ทั้ง ง. นี้เป็นกฎมรรค (ฤฏฎไม่มีกรรม) ถึงจะตั้งรูปวิเคราะห์เป็น
ก้มมรูปก็ไม่เหมาะ.
ในสถานะนี้เป็นก้มรูป ท่านบัญญัติให้แปลว่า "เป็นที่-"
ถ้าเป็นก้มรูปแปลว่า "เป็นที่อ้นเจา-"