อธิบายบทไวยากรณ์ นาม กิริยากรณ์ อธิบายบาลีไวยากรณ์ นามกิตก์ และกิริยากิตก์ หน้า 24
หน้าที่ 24 / 121

สรุปเนื้อหา

บทความนี้อธิบายเกี่ยวกับการปรุงประโยคในภาษาไทย โดยเน้นการวิเคราะห์คำในบทบาทต่าง ๆ เช่น นามและกิริยากรณ์ การใช้เครื่องปรุงและเหตุคู่กิริยาจากเพื่อให้ได้รูปที่เหมาะสมในภาษา วอเช่นการแปลคำ และการปรับคำให้เข้ากับกิริยากรณ์ ความสำคัญของการสังเกตคำที่มีความหมายเฉพาะอย่างเช่น 'อาตาโป' ที่ทำให้เข้าใจการใช้ภาษาและการวิเคราะห์ให้ได้ดีขึ้น ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถศึกษาต่อได้ที่ dmc.tv.

หัวข้อประเด็น

-การวิเคราะห์คำในภาษาไทย
-บทบาทของนามและกิริยากรณ์
-การใช้เครื่องปรุงในไวยากรณ์
-ตัวอย่างการปรุงคำ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อธิบายบทไวยากรณ์ นาม กิริยากรณ์ - หน้าที่ 23 ปรุงอายาขาด คือ วิภติติ วาจา และปัจจัย ถ้าจะต้องการเป็นคำรูป ก็ต้องใช้เครื่องปรุงของกิริยากรณ์ หรือเหตุคู่กิริยาจาก, กามรูปก็ใช้ เครื่องปรุงของกิริยากรณ์ หรือเหตุคู่กิริยาจาก, การปรุงใช้เครื่องปรุง ของกิริยากรณ์, เช่นเห็นศัพท่าว่า สกุปโก (ผู้ศรษยา) ถ้าคุณดูภาพก็จะเห็น ว่าเป็น สกุป ธาตุ และเป็นกิริยารูป กิตติสารนะ เพราะมงผู้หญิงเอง ฉะนั้น เวลาวิเคราะห์คือ ต้องตั้งเป็นกิริยากรณ์ จากผู้เป็น สกุปโก แล้วเต็ม อิติ (เพราะเหตุนี้) มาต่อเข้าสบถสั้น สกุปโก ได้เป็น สกุปติ-ดินบทแปลซึ่งเป็นตัวสาระก็ คือ สกุปโก ส่วนรูปวิเคราะห์อื่นๆ ก็พึงสังเกต ตามที่ได้อธิบายมาแล้วในสาขานั้น ๆ ก็เด็ก แต่มีข้อแปลกออกอย่าง หนึ่ง คือ สำหรับวิเคราะห์ ที่เป็นเหตุคู่กิริยากรณ์ ซึ่งท่านรวมเข้ากับ กิริยากรณ์ว่า กิตติรูปนั้น มีที่ใช้บ้างต่าง ๆ ต้องสังเกตตามคำแปล จึงจะรู้ได้ เช่น ศัพทว่า อาตาโป (ความเพียรซึ่งยิ่งกลากให้ร้อนทั่ว ) หฤทัยว่า มหาวาโท (นายปรานผู้ชำให้ตาย) เป็นต้น ตามคำแปลนึ่งว่าถือเป็นรูปเหตุคู่กิริยากรณ์ เพราะมีคำว่า "ยัง" ซึ่งหมายถึงตัวการัต (ตัวถูกใช้ให้นำก) มงปรากฏอยู่ จะนั้นแลจะ ตั้งไว้สังวรจะ ต้องนำ ธาตูไปปรุงให้เป็นเหตุคู่กิริยากรณ์ เช่น อาตาโป เป็น อาบทะหน้า คุป ธาตุ นำไปประกอบเป็นเหตุคู่กิริยากรณ์ ได้รับเป็น อาตาปิโด (ยัง-ให้ร้อนทั่ว) ตั้งเป็นรูป ว่า อาตาปิ-ติ อาตาโป (วายโม ความเพียร) (กิเลส ยิ่งกิเลส) ย่อมให้ร้อนทั่ว เหตุฉันใด (ใส วายโม ความเพียรนั่น) ชื่อว่า อาตาโป (ยิ่งกลาสให้ร้อนทั่ว).
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More