ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อธิบายลำไวยากรณ์ นามกรรม และ กริยากรรม - หน้าที่ 108
กัมมาวาจกนั้น มักลง ย ปัจจัย และ อิ อามา ตามมามีอาขาด แล้วจึงลง มาน ปัจจัยที่หลัง อย่าง กริยมโน, ภูมิชยมโน เป็นต้น ถ้าเปลง ย ปัจจัยกับที่สุดฯ ไม่ลงลง อิ อามา เช่น อุปมโน อันเขากล่าวอยู่ ว่า ฯ ฯ ในความกล่าว ลง ย ปัจจัย แล้วเอาว เป็น ฯ ฯ แล้วแปลที่สุดฯ กับ ปัจจัย เป็น ฯ ฯ จึงลง มาน ปัจจัย สำเร็จรูปเป็น จุดมาโน
ส่วนที่เป็น ภวกวา ด นั้น มีวิธีเหมือนกันกับกัมมาวาจก นี้ ต่าง แต่ใช้อาถรรมเท่านั้น ที่เป็น เหตุคืดดูจาก ต้องอาศัยเหตุปัจจัยในอาขาดทั้ง ๔ ตัว นั้นมาถลเป็นเครื่องหมายจุดกล่าวมาแล้ว แต่โดยมากมิแต่ ฉย ถนายปล่อยมาน เช่น ปายยมโน ให้หยู่, การปายยมโน ให้ ทำอยู่, สายยมโน ให้ธะลู่, ธายยมโน ให้ตั้งอยู่ เป็นต้น ที่เป็น เหตุมามาว่า ให้ลงหยู่ปัจจัย และ ฯ ฯ ฯ ฯ อามา ด้วย เช่น ปาอปยมโน อันเขาให้หยู่-ด่มอยู่, ปติฏฐปยมโน อันเขาให้หยู่ ฯ ฯ สายยมโน อันเขาให้ฟังอยู่ เป็นต้น
อีกซึ่ง คำที่ประกอบด้วยปัจจัยนี้ นำไปแจกด้วยวิธีตัง ๓ ใน ๓ ลิงค์ได้ ที่เป็น ปุ เป็น มโน เช่น กรรมโน ที่เป็น อิติ เป็น มาน เช่น กุมานา, ภูมิชยมานา เป็นต้น ที่เป็น มุุ เป็น มาน เช่น วาทมนา, จุจามานา เป็นต้น