ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อธิบายบาลีไว้อย่างน่าคิด และกรึกดิต - หน้าที่ 111
ธาตุมีม เป็นที่สุด แสง ด เป็นนวะ แล้วจงที่สุดธาตุ
ปฏุปนิโต หลักไปแล้ว ป+มน ธาตุ ในความกว้างไป
สนูโต ระจับแล้ว สม ธาตุ ในความสมบูรณ์
ธาตุนี้ หู เป็นที่สุด แปลลง เป็น พุท แล้วจงที่สุดธาตุ
รังโธ งอกแล้ว รุษ ธาตุ ในความอก
อุผิโต อันนำพัดไปแล้ว วุธ ธาตุ ในความอเลอย
ใช้เป็นนามเกิดบ้างมัน เช่น พุทธโธ แปลว่า รู้แล้วรู้ ธาตุ
ในความรู้ ถ้าใช้เป็นนามเกิด แปลว่า พระพุทธเจ้า 1 ก็คือ ท่าน
ผู้รับนเอง หรือว่า คต การเดิน จิต การยืน เป็นต้น ที่มัก
ปรากฏอยู่หลายแห่ง ก็เพราะท่านใช้เป็นนามเกิดนั้นเอง
ที่เป็น กัตวา จากนั่น เช่น คติ, ปฏุปนิโต, ปริจุโจ เป็นต้น
คติ ไปแล้ว คม ธาตุ ในความไป-ถึง ณ ปัจจัย ลบที่สุดธาตุ
ปฏุปนิโต หลักไปแล้ว ป+มน ธาตุ ในความกว้างไป ธาตุมีม
เป็นที่สุด แปลลง 1 นวะ ปริจุโรเข้าไปแล้ว ป-วุธ ธาตุ
ในความเข้าไป ธาตุมั สุ เป็นที่สุด แปลลง เป็น อุจิ
ที่เป็นเหตุคัตวา ทำปรากฏาว่า ไม่ปรากฏว่ามีใส้เลย ที่เป็นมามาจาก
และภาวาวกมีมรุปเป็นอย่างเดียวกันกับคัตวา จาก จะรู้เป็นจาก
แผนไหน ก็ต้องพิจารณาถึงธาตุเสี่ยงก่อน คือถ้าเป็น คัตวา จาก
ใช้ดุได้ทั้ง 2 คือ สัมมธาตุ และ อัมมธาตุ จำพวกดังมามาจาก
ใช้ได้แต สัมมธาตุ ภาววาจา ใช้ได้เฉพาะแต่คัมมธาตุ.