ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระวาจาวิริยคุณ (ทัตติวิโส ภิกขุ)
มีความคิดว่า การที่ตนมั่งมีทรัพย์สินเงินทอง ก็เพราะรูั้เก็บหอมรอมริบมาเป็นเวลานาน ถ้าจะบริจาคเงินสงเคราะห์ผู้อื่นก็จะทำให้ทรัพย์สินของตนร่วงลงไป บางคนยังคิดด้วยความรอบคอบ แต่บัณฒิตนต่อไปอีกว่า ถ้าตนบริจาคทรัพย์สินเงินทองช่วยเหลือผู้อื่น ถ้าถึงคราวที่ตนถกะกำลำบากบ้าง จะหวังได้อย่างไรจะมีใครรสงเคราะห์ทน เมื่อคิดเช่นนี้แล้วผู้คนในกลุ่มนี้ก็จะพยายามสะสมทรัพย์สินเงินทองไว้มากๆ จนเกินเหตุโดยไม่คิดสงเคราะห์ใครๆ
๑) บางพวกไม่รู้ไม่เข้าใจธรรมะ บุคคลในกลุ่มนี้นอกจากไม่สงเคราะห์ผู้อื่นโอกาสต่างๆ แล้ว ยังไม่สงเคราะห์เหล่าสมพรรคพาราหมื่นอีกด้วย เพราะเห็นว่าบรรดานักบวชเอาเปรียบสังคม เห็นว่าบรรพชิตมีชีวิตอยู่พร้อมบริหารด้วยปัจจัย ๔ โดยไม่ต้องแรงงานดังเช่นมารวาส
ผุ้คนที่มีความคิดเช่นนี้ก็เพราะไม่สนใจพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา แม้ตนจะถือกำเนิดในครอบครัวที่เรียกตนเองว่าชาวพุทธ ก็ไม่รู้ว่าโดยพระวินัยนั้น บรรพชนไม่สามารถประกอบอาชีพดังเช่นมารวาสได้ เมื่อบวชเข้ามาเป็นบรรพชิตในพระพุทธศาสนาแล้ว ท่านต้องมีหน้าที่ศึกษา และปฏิบัติธรรมเพื่อให้เกิดความรู้แจ้งเห็นแจ้งในสัจธรรม แล้วนำความรู้นั้นมาอบรมสั่งสอนญาติไโยม ให้เป็นคนดีมีสัมมาทิฏฐิ รู้ชั่วดีเรื่องบาปบุญคุณโทษ ประโยชน์และมิประโยชน์ โดยสร้บก็คือเป็น