ข้อความต้นฉบับในหน้า
รู้จักตนเอง และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนให้มีสัมมาทิฐิอันเข้าไปอยู่ในใจอย่างมั่นคง ด้วยการพยายามชมชื่นคุณความดีจากกลายาน- มิตรในเครือข่ายคนดีให้ยั่งๆ ขึ้นไป
3. ต้องร่วมกันทำกิจกรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา และสังคม เพื่อประโยชน์ให้แก่สังคม เพื่อพัฒนาเครือข่ายกลายาน-มิตรให้แข็งแกร่ง เพื่อขยายเครือข่ายกลายานมิตรให้กว้างขวางออกไปเรื่อยๆ และเพื่อพัฒนาสมาทิฐิในใจของกลายานมิตรแต่ละคนให้แก่ร้อยขึ้น
ถ้าท่านผู้อ่านย้อนกลับไปดู อุ - อก - ก - ส ซึ่งอธิบายจบ ไปแล้วอีกครั้งหนึ่ง ย่อมจะเห็นว่าเครือข่ายกลายานมิตรมีบทบาทสำคัญที่สุดต่อทั้ง 3 หัวข้อ คือ อุ - อา - ส กล่าวคือ ในหัวข้อ "หาเป็น" หรือ "อุฎฐานสัมปทา" นั่น ถ้าสังคมเต็มไปด้วย "คนตาเดียว" ขาดแคลนผู้มีลักษณะนิสัย "กลายานมิตร" ผู้คนในสังคมย่อมไม่มีทางประกอบอาชีพอย่าง สุจริตได้เลย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนในสังคมไทยในช่วงที่ผ่านมา ก็คือ ทั้งๆ ที่ผู้คนโดยทั่วไปแจ้งแก่ใจแล้วว่าการ ค้ายาเสพติดให้โทษ เป็นงานผิดศีลธรรม และกฎหมาย มีโทษ ร้ายแรงตามกฎหมายถึงขั้นประหารชีวิต และรีบทรัพย์สมบัติ แต่ก็มีผู้คนมากมายพากันเข้าไปสู่อาชีพนี้ ราวกับแมลงเม่า บินเข้าส่องไฟ นั่น
นี่คือเหตุผลที่แสดงว่า "การหาเป็น" จะเกิดขึ้นได้จริง