ข้อความต้นฉบับในหน้า
โครงการบวชขอบาสิทธิกะแนวน้องอ่อน 1 ล้านคน
b) เรื่องจีณานายชุก [๑๔๓]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสนามีประทับอยู่ในดัรีชื่อว่าอัคคพะ ทรงปรารภกิจตอนชุก
คนนึงคือพระธรรมเทคนานี้ว่า "อนุญาต อ่ย โลโก" เป็นต้น.
คนเจริญมรณสติไม่กลัวตาย ความผิดดารว่าบวันที่๑ พวกชาวเมืองอพีก เมื่อพระศาสน็ดีถึงเมืองอพีแล้ว ได้ทูลมินิมัตถถวายทานแล้ว
พระศาสนามีอธิษฐานจะทรงทำอนุโมทนาในเวลาเสร็จภัคติ จึงตรัสว่า "ท่านทั้งหลายเจริญสติโดยนี้ว่า "ชีวิตของเราไม่ยืนยืนความตายของเราแน่นอน เราพิทจากแน่นแล้ว ชีวิตของเรามีความตายเป็นที่สุขวิญญาณเราก็เที่ยงเลย, ความตายเที่ยงก็มีร้อนอันทั้งหลายใดเจริญแล้วก็จะอ่อนโยน, ในกาลที่สุดของทั้งหลายที่น้อมถึงความสะองรงอย่างลาดกัลด้วยอุทกะเหมือนบรรยเหตุอัสพิเราะกลัว ฉะนั้น,"
ส่วนมหาชนทั้งหลายใดเจริญแล้วชนนทั้งหลายย่อมไม่สะดุงในกาลที่สุด
อุทกะบูชิหนี้อธิษฐานแต่ใกล้เทียวแล้วก็อีกท่อนไม่ให้เถิงที่ไปอยู่เนั้น เพราะนั่น มรงสติอันนานทั้งหลายยังเจริญ.
พระศาสนาสืดประทานโอวาทก็ชำรึกชุก พวกชถเหลือฟังพระธรรมเทคนานี้แล้วได้เป็นผู้อื่นวอในกิจของตนอย่างเดียว ส่วนธิดาของนายช่างหุกอายุ ๑๖ ปีนึงก็ว่า "โอ ธรรมกถ้อยคำของพระพูดเจ้าทั้งหลายอัครรัศ ควรเจริญสติอย่างนี้แล้ว ก็อธิษฐานสตอย่างดีตลอดทั้งกลางวันกลางคืน. ฝ่ายพระศาสนาสืดออกจากเมืองอพีแล้วก็ได้เสด็จไปพระเชดวัน. นางกุมาริกาแม่นี้ก็เจริญญาณสติสิบปีเดียว.
ต่อมาวันหนึ่ง พระศาสนาทรงตรวจดูโลกในระยะกัลย์นี้นานกุมาริกานั้นเข้าไปในภายในฝ่าย คือพระญาณของพระองค์ทรงใคร่ครวญว่า "เหตุอะไรหนอ? ถาม" ทรงทราบว่า "นางกุมารินีเจริญญาณสติแล้วสิบ ๓ ปี ตั้งแต่วันที่พีธรรมเทวนาคอนบัดนี้ไปในวันที่นั้นแล้ว ถามปัญหา ๔ ข้อกนามนี้ เมื่อนางแก้ปัญหาอยู่ก็ให้กล่าวในฐานะ ๕ แล้วภายคาถานี้ ในลาภกายานกุมาริกานั้นก็ถือต้องอยู่ในโศลกปัญญาติด ผลอัศนัยนกุฎิ