ข้อความต้นฉบับในหน้า
โครงการบวชขอบสิกขาแก้วหนอ่อน ๑ ล้านคน
พระนางรูปนั้นนานเท่าเข้าฝ่าทรงคงธรรม
พระนางรูปลนั้นเท่าดับคำพรานามคุณของพระตากตนต้านักพากย์ภูมิและ
พวกอุบาสก จึงทรงดำริว่า "ชนนหลายย่อมกล่าวชมเจ้าพระองค์ของเรานักหนาเดียว แม้วันหนึ่งยัง
พระองค์เมื่อจะตรัสโทษในรูปของเรา จะตรัสได้สักเท่าไรกัน? ถ้าสะใภ้ไปบวกพวกภูมิ
ไม่แสดงตนเลย ฝ่าพระตากคงฟังธรรมแล้วพระมารึว่า?"
พระนางจึงตรัสบอกแก่พวกภูมิว่า "วันนี้ฉันจ๋าไปสู้ที่พูธรรรม." พวกภูมิมี
ใจเห็นว่า "นานนักหนาการที่พระนางรูปนั้นทางี้พระประสงค์จะดีใจไปสู่ที่บำรุงพระ
ศาสดาเกิดขึ้นแล้ว วันนี้ พระศาสดาทรงอาศัยพระนางรูปนั้นนี้แล้ว จักทรงแสดงพระธรรม
เทนายอัจฉริ" ดังนี้แล้วพวกพระนางออกไปแล้ว ตั้งแต่เวลาที่ออกไป พระนางตรัสว่า "เรา
จะไม่แสดงตนเลย."
พระศาสดาทรงแสดงธรรมแก่พระนาง
พระศาสดาตรัสว่า "วันนี้ รูปนานยามที่บำรุงของเรา ธรรมเทคณาเช่นว่า
หนออแล?จึกเป็นที่สบายของเธอ"ทรงทำความตกลงพระหฤทัยว่า "รูปนี้นานนั้น หนาในรูปมี
ความอิ่มใจในอัธภาพอย่างรุ่มร้อน การบรรเทาความเมาในรูปด้วยรูปนี้แล้วเป็นที่สบายของเธอ
ดูการบ่รนหนามด้วยหนามจะนั่น"
การรู้ว่ารจิต ย่อมช่วยในการแสดงธรรมที่เหมาะสมกับจิตของผู้ฟัง
ในเวลาที่พระนางเข้าไปสู่พุทธมิดหญิงมีสุขปลอดพรั่งผู้หนึ่ง อายุรวา ๑๖ ปี
นุ่งผ้าแดงประดับแล้วด้วยอารณณ์ทุกอย่าง ถือผ้าฉันงามด้วยกำลัง
พระองค์ ก็แล้ว พระศาสดาและพระนางรูปลนั้นเท่านั้น ทรงเห็นรูปหญิง
พระนางเข้าไปประวารพร้อมกับภูมิณทั้งหลายพวกภูมิยืนข้างหลังพวกภูมิยื่น
ถวายบังคมพระศาสดาด้วยบุญจงปรดิษฐ์ในระหว่างพวกภูมิณ ทรงแลดูพระศาส
ตั้งแต่พระบาททรงเห็นพระสรีระของพระศาสดาวิจิตแล้วด้วยพระลักษณะ รุ่งเรืองด้วยอุณ
พิญชนะองค์พระรัศมีน่งแววคล้ายแล้ว ทรงแลดูพระพักตร์คันมีสิริจตุพระจันทร์เพ็ญได้รง
เห็นรูปหญิงอื่นอยู่ในที่ใกล้แล้ว
คนจะเห็นธรรม ตามความเป็นจริง ต้องมีประสบการณ์ตรงด้วยตนเอง